ย้อนรอย “Codex Gigas” คัมภีร์ปีศาจแห่งโลกยุคกลาง ที่ยังไม่มีใครรู้ว่าเขียนขึ้นมาได้อย่างไร

ว่ากันว่าโลกของเรานั้นเต็มไปด้วยความลึกลับ และตั้งแต่ในอดีตมาเราก็มีเรื่องราวมากมายแปลกๆ มากมายที่เกิดขึ้นมาโดยยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่า สิ่งเหล่านี้นั้นทำขึ้นมาเพื่ออะไรกันแน่

และหากเราจะกล่าวถึงหนึ่งในหนังสือที่มีความลึกลับที่สุดเล่มหนึ่งของโลกแล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะเคยได้ยินชื่อของหนังสืออย่าง “Codex Gigas” หรือ “คัมภีร์ปีศาจ” กันมาบ้าง

 

 

โดยนี่เป็นหนังสือที่มีชื่อเสียงใหญ่ๆ อยู่ที่การกล่าวถึงเรื่องราวของปีศาจ และขนาดที่ใหญ่โตผิดปกติของมัน

Codex Gigas มีความกว้าง 50 เซนติเมตร สูง 91 เซนติเมตร และหนักถึง 74.8 กิโลกรัม ซึ่งหมายความว่าในตอนที่ทำขึ้นนั้นผู้ผลิตหนังสือจะต้องใช้หนังสัตว์มากกว่า 160 ชิ้น และหนักมากพอที่จะทำให้การขนย้ายหนังสือต้องใช้คนถึงสองคนขึ้นไปเลย

อ้างอิงจากตำนานในสมัยก่อน ว่ากันว่าหนังสือเล่มดังกล่าวถูกเขียนขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 13 โดยนักบวชเพื่อแลกกับการละเว้นโทษประหารของตนเอง โดยเขาได้ที่ทำสัญญากับปีศาจ และใช้เวลาในการเขียนเพียงหนึ่งคืนเท่านั้น

 

 

แน่นอนว่าตำนานส่วนใหญ่เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้จะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก เพราะอ้างอิงจากข้อมูลของนักโบราณคดีแล้ว ต่อให้คนหนึ่งคนเขียนหนังสือทั้งวันทั้งคืนแบบไม่พัก พวกเขาก็ต้องใช้เวลาถึง 5 ปีในเขียนหนังสือเล่มดังกล่าว และหากมองตามความเป็นจริง หนังสือเล่มนี้ก็น่าจะใช้เวลาเขียนถึง 25 ปีเลย

อย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้ก็ถูกเชื่อโดยนักวิทยาศาสตร์หลายๆ คนเลยว่าน่าจะเขียนขึ้นโดยคนคนเดียวในเวลาสั้นๆ จริงๆ แม้ว่าคงจะไม่ใช่ในหนึ่งคืนอย่างที่ในตำนานอ้างก็ตาม

สำหรับข้อมูลในทางประวัติศาสตร์แล้ว Codex Gigas ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในปี 1295 โดยมีการอ้างว่าถูกเปิดอ่านโดยนักบวชในเมือง Břevnov ของสาธารณรัฐเช็ก ต่อด้วยการปรากฏตัวที่ Prague ในปี 1594 และถูกทหารสวีเดนขโมยไปในสงครามเมื่อปี 1648 ก่อนที่จะตกไปอยู่ในมือของหอสมุดแห่งชาติสวีเดนในปี 1877

 

 

ที่น่าสนใจคือหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เขียนเอาไว้เพียงแค่เรื่องปีศาจอย่างที่หลายๆ คนเชื่อ แต่มันยังมีการรวมคัมภีร์พันธสัญญาเดิม เรื่องราวในหนังสือ “ประวัติศาสตร์ชนยิว” (Antiquities of the Jews) และหนังสืออื่นๆ อีกมากเอาไว้ด้วย ดังนั้นการจะบอกว่านี่เป็นคัมภีร์ปีศาจอย่างแท้จริงเลยก็คงไม่ถูกสักเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามด้วยชื่อเสียงด้านความลึกลับบวกกับการเขียน และภาพในหนังสือที่ส่วนมากจะเป็นการสรรเสริญปีศาจก็ทำให้หนังสือเล่มนี้มีชื่อเสียงในฐานะคัมภีร์ปีศาจสุดลึกลับเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อที่เราทราบกันว่าหนังสือเล่มนี้ มีหน้ากระดาษที่หายไปราวๆ 20 หน้า ทำให้เนื้อหาทั้งหมดของมันกลายเป็นปริศนาไปแล้วด้วย

 

ที่มา ancient-origins, allthatsinteresting และ gizmodo

Comments

Leave a Reply