เปิดใจหนุ่มสุโขทัยกินหลู้ดิบ ติดเชื้อรุนแรง-ขาเน่า ต้องตัดทิ้ง กับชีวิตปัจจุบันที่รอดมาได้

เมนูสุกๆ ดิบๆ อาจเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คน แต่ในตอนนี้ สำหรับใครที่ชื่นชอบเมนูเหล่านี้คงต้องระวังให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว เมื่อ คุณเปา นพรัตน์ มิลินทานุช ออกมาเล่าประสบการณ์ของตน ที่ต้องสูญเสียเท้าทั้งสองข้างไป เพราะเมนูประเภทนี้

คุณเปาได้ออกมาเล่าผ่านรายการ ตีสิบเดย์ ว่าชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปตลอดกาล เนื่องจากการกินหลู้หมูดิบที่บ้านเพื่อนของตน ในจังหวัดสุโขทัย เมื่อวันสงกรานต์ ปี 2559 ที่ผ่านมา

เมื่อเขากลับมายังกรุงเทพฯ เขารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว หนาวสั่น ในตอนแรกเขาคิดว่าแค่อาการป่วยธรรมดา แต่อาการกลับทรุดหนักกว่าเดิม เขาจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาล

จากผลตรวจของหมอพบว่า เขาเป็นโรคติดเชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง จากเชื้อ สเตรปโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) หรือเรียกกันว่าโรคไข้หูดับ

หลังจากนั้น อาการของเขาก็ทรุดหนัก มือเท้าชา โลหิตเป็นพิษ ไตวายเฉียบพลัน ปอดติดเชื้อ ระบบหายใจล้มเหลว และผิวหนังอักเสบ หากชีพจรไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน คือไม่รอดแน่นอน

ร่างกายของเขาบวมพอง หัวใจบีบตัวน้อยลง ทำให้เลือดไม่สามารถเลี้ยงได้ทั่วร่างกาย ยาจึงเข้าไปรักษาได้ไม่ทั่วถึง เชื้อจึงไปรวมอยู่ที่ปลายเท้า ทำให้เกิดภาวะเนื้อตาย เท้าทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีดำ

วิธีเดียวที่จะรักษาได้คือ การตัดเท้าออกจึงจะหยุดการแพร่เชื้อได้ เมื่อทางหมอตัดเท้าของเขาออกแล้ว อาการของเขาก็ดีขึ้นตามลำดับ ไข้ลดลง ค่าไตและการบีบตัวของหัวใจดีขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องรักษาตัวต่อไปเรื่อยๆ หลังจากออกโรงพยาบาล เนื่องจากเกิดแผลพุพองขึ้นตามแขนทั้งสองข้าง คล้ายกับแผลไฟไหม้ ต้องทำการผ่าตัดเพื่อทำให้นิ้วใช้งานได้ตามปกติ

เชื้อแบคทีเรีย สเตรปโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) หรือโรคไข้หูดับ เกิดจากหมูที่ป่วย ซึ่งจะพบได้ในเนื้อหมูและเลือดหมูดิบ เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้เกิดไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ รุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

คุณเปาเสียเงินกว่า 2 ล้านบาท ในการรักษาครั้งนี้ ปัจจุบันเขายังคงรับประทานหลู้อยู่ แต่เป็นแบบปรุงสุกแล้วเรียบร้อย

คลิปที่คุณเปาออกมาเล่าประสบการณ์ของตนในรายการ ตีสิบเดย์

ที่มา: kapook, @2020 ENTERTAINMENT