ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ตอนนั้น Sara Harper ทำงานเป็นสัตวแพทย์อยู่ในคลินิกต้นทุกต่ำที่มุ่งเน้นช่วยให้สัตว์ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน
เธอแปลกใจมากเมื่อได้เจอกับเจ้า Dobbie สภาพของมันน่าเป็นห่วงมาก ขนของมันร่วงไปจนแทบจะไม่เหลือ เล็บของมันยาวจนม้วนเข้ามาแทงอุ้งเท้า และผิวหนังของมันก็เป็นสีแดง ดูแล้วคงจะเจ็บปวดเวลาถูกสัมผัส
Harper เล่าว่าเจ้าของของมันเพิ่งเคยพามันมาหาสัตวแพทย์ในรอบ 5 ปีที่เลี้ยง “เธอยอมรับว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอรักษาเห็บหมัดด้วยแป้งที่ใช้โรยพรมเท่านั้น
เธอไม่อยากเสียเงินไปกับการรักษามัน ในฐานะคนช่วยสัตว์ฉันขอร้องให้เธอยอมปล่อยมันให้คนคนอื่นดูแลต่อ และเธอก็ตกลงในทันที”
แม้ว่าวันนั้นคลินิกของเพื่อนสัตวแพทย์ที่ทำงานด้วยกันจะปิด แต่เธอก็ยอมพามันไปคลินิกเป็นกรณีพิเศษเพื่อเริ่มรักษาทันที
พวกเธอรีบตัดเล็บ อาบน้ำ และทายาให้มันเท่าที่จะทำได้ Dobbie เองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พวกเธอดูออกว่าเจ้าหมาคงเจ็บปวดกับทุกขั้นตอนการช่วย แต่มันก็พยายามให้ความร่วมมือโดยการอยู่นิ่งที่สุด
Harper บอกว่า “มันนั่งนิ่งๆ และส่งสายตาที่อ่อนหวานมาให้เรา เหมือนกับว่ามันรู้ว่าตัวเองได้รับการช่วยเหลือแล้ว”
หลังจากได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว Dobbie ก็ถูกส่งไปอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Pawsibilities Rescue เพื่อรับการรักษาระยะยาวต่อ
มันต้องใช้เวลายาวนานหลายเดือนเลยทีเดียวกว่าขนของมันจะขึ้นใหม่ทั่วตัว จากนั้นพวกเขาถึงจะเริ่มหาบ้านใหม่ให้มันได้
หลายเดือนต่อมา Dobbie ก็มีโอกาสได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อมันถูก Liz Ford ซึ่งเป็นหญิงที่รักหมาอย่างแท้จริงรับไปอยู่บ้านด้วย
อันที่จริงตอนแรกเธอไม่ได้จะมารับเลี้ยงมันด้วยซ้ำ เธอตั้งใจจะรับเลี้ยง Wylie ซึ่งอยู่ในบ้านอุปถัมภ์เดียวกันกับมัน ตอนนั้นเองเธอก็ได้เจอกับเจ้าหมาแล้วรู้สึกตกหลุมรัก เธอคิดว่าเธอต้องรับเลี้ยงมันอีกตัวให้ได้
เธอจึงรับเลี้ยง Wylie ไปก่อน แล้ว 4 เดือนต่อมาเธอก็กลับมารับ Dobbie ไปเลี้ยงอีกตัวหนึ่ง คุณคงพอจินตนาการได้นะว่ามันจะดีใจมากขนาดไหน ที่ได้มีบ้านเป็นของตัวเอง แถมยังได้มาอยู่กับเพื่อนหมาที่รู้จักด้วย
Ford ยอมรับ Dobbie เข้ามาเลี้ยงทั้งที่รู้ว่ามันยังไม่หายดี และเธอต้องเป็นคนดูแลและให้ยามันต่อ แต่เธอก็รับเลี้ยงมันอยู่ดีเพราะเธอรักมันจริงๆ
ตอนนี้ชีวิตของ Dobbie เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว มันหายจากโรคต่างๆที่เป็นอยู่ ทำให้ขนของมันขึ้นเป็นสีขาวสะอาดสวยงาม แถมยังมีบ้านใหม่ที่อบอุ่นด้วย ที่สำคัญก็คือมันมีเจ้าของที่รักและเป็นห่วงมัน
ที่มา: the dodo
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.