ย้อนรอย “มหาวิหารนอเทรอดาม” ที่ซึ่งมีความสำคัญต่อฝรั่งเศส มากกว่าแค่โบสถ์ยักษ์เก่าแก่

กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญโด่งดังกันไปทั่วโลก…

หลังจากเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่มหาวิหารนอเทรอดาม (Cathédrale Notre-Dame de Paris) แห่งกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส

 

 

จริงอยู่ว่าสำหรับหลายๆ คนแล้ว เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อ้างจะฟังดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากจนทำให้ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องที่เกิดขึ้นถึงได้กลายเป็นข่าวที่มีคนติดตามไปทั่วโลกได้

แต่สำหรับคนฝั่งยุโรป โดยเฉพาะคนฝรั่งเศสเอง วิหารแห่งนี้เป็นอะไรที่มากกว่าโบสถ์ยักษ์ที่เก่าแก่มาก

เพราะที่แห่งนี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส และคงอยู่มาผ่านยุคสมัยอย่างยาวนานกว่า 850 ปี (ซึ่งนับว่าเก่าแก่กว่าสมัยสุโขทัยของประเทศเราอีก)

 

 

มหาวิหารนอเทรอดามถูกประกาศสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1163 ที่ใกล้ๆ แม่น้ำแซน บนสถานที่ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นที่ตั้งของวิหารแซ็งเตเตียนอีกทีหนึ่ง ภายใต้ความคิดของบิชอปแห่งปารีส และสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระแม่มารี

การก่อสร้างวิหารแห่งนี้กินเวลานานถึง 150 ปี และกลายเป็นมหาวิหารคู่บ้านคู่เมืองของฝรั่งเศสไปอีกนานแสนนาน

 

ตั้งแต่ที่ถูกสร้างขึ้นมหาวิหารแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นสถานที่ที่เป็นฉากหลังในเหตุการณ์สำคัญๆ มากมายของฝรั่งเศส

ไม่ว่าจะเป็นการสวมมงกุฎของกษัตริย์ในปี 1431 การทำพิธีขึ้นเป็นจักรพรรดิของนโปเลียน โบนาปาร์ตในปี 1804

หรือแม้แต่การประกาศให้ “ฌาน ดาร์ก” (โจนออฟอาร์ค) พ้นจากข้อกล่าวหาว่าเป็นแม่มด และขึ้นเป็นนักบุญในปี 1909

 

นักบุญฌาน ดาร์ก ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดและประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็นไปตั้งแต่ปี 1431 (ในเวลานั้นเธออายุเพียงราวๆ 19 ปีเท่านั้น)

 

แน่นอนว่าสถานที่ซึ่งมีประวัติมาอย่างยาวนานเช่นนี้ย่อมต้องเคยตกเป็นเป้าหมายของเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตมานับครั้งไม่ถ้วน

สำหรับมหาวิหารนอเทรอดามเองก็เคยต้องเสี่ยงกับการถูกทำลายทั้งจากการปฏิวัติฝรั่งเศสในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 (ซึ่งในเวลานั้นมีรูปปั้นถูกทำลายไป 28 ชิ้น) รวมไฟสงครามในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

 

แต่ไม่ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเพียงใดเกิดขึ้น ท้ายที่สุดแล้วมหาวิหารนอเทรอดามก็สามารถยืนหยัดมาได้จนถึงปัจจุบัน

และแม้ว่าจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ทำให้วิหารเสียหายที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ตามประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครงแห่งฝรั่งเศสก็ได้ออกมายืนยันว่าพวกเขาจะบูรณะมหาวิหารแห่งนี้ให้กลับมาเป็นดังเดิมให้จงได้

 

 

ซึ่งในปัจจุบันยอดเงินบริจาคในกองทุนพิเศษที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อใช้ในการบูรณะนอเทรอดามเองก็พุ่งขึ้นไปถึง 750 ล้านยูโรแล้ว (ราวๆ 27,000 ล้านบาท)

ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดทางรัฐบาลก็เชื่อว่าพวกเขาจะบูรณะมหาวิหารได้สำเร็จลุล่วงภายในเวลา 5 ปีหลังจากนี้

 

ที่มา livescience, bbc, matichon, independent และ wsj

Comments

Leave a Reply