เคยได้ยินเรื่องราวของ “ตะพาบยักษ์แยงซีเกียง” (Rafetus swinhoei) กันมาก่อนไหม มันคือตะพาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักตอนโตเต็มวัยได้มากถึง 136-200 กิโลกรัม และมีความยาวเกือบๆ หนึ่งเมตร
พวกมันได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเต่าที่อยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์มากที่สุดของโลก ด้วยความที่ในปัจจุบันพวกเราพบพวกมันอยู่ทั่วโลกเพียงแค่ 4 ตัวเท่านั้น แถมในหมู่ตะพาบที่พบยังมีตัวเมียที่ยืนยันได้แค่ตัวเดียวอีกด้วย
ดังนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาจึงนับว่าเป็นข่าวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของเหล่านักอนุรักษ์ทั่วโลกเลยก็ว่าได้
เพราะในวันนั้นได้มีตะพาบยักษ์แยงซีเกียงตายลงไปอีกหนึ่งตัวแล้ว แถมตัวที่ตายยังเป็นตัวเมียที่มีอยู่เพียงตัวเดียว วึ่งเป็นความหวังสุดท้ายในการกอบกู้สายพันธุ์อีกด้วย
อ้างอิงจากสื่อท้องถิ่นของจีน ตะพาบยักษ์ที่ตายไปในครั้งนี้ ตายไปในเวลาราวๆ หนึ่งวันหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่พยายามผสมเทียมมันเพื่อขยายพันธุ์ ด้วยอายุประมาณ 90 ปี และยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่แน่ชัดถึงสาเหตุที่มันตายไป
หนึ่งในความพยายามผสมเทียมที่เกิดขึ้นหลายครั้งก่อนที่ตะพาบยักษ์จะตายไป
การตายของตะพาบตัวเมียในครั้งนี้ ทำให้สายพันธุ์ตะพาบยักษ์แยงซีเกียงตกอยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วงและชวนให้สิ้นหวังอย่างถึงที่สุด
เพราะในปัจจุบันตะพาบยักษ์แยงซีเกียงที่เหลืออยู่ในความดูแลของมนุษย์จะเหลือเพียงแค่ตะพายตัวผู้อายุ 100 ปีของจีนเท่านั้น ส่วนตะพาบอีกสองตัวนั้นเชื่อกันว่ายังอยู่ที่ไหนสักแห่งในป่าที่เวียดนาม และในปัจจุบันยังไม่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นเพศใด
ตะพาบยักษ์แยงซีเกียงตัวผู้ตัวสุดท้ายที่อยู่ในการดูแลของมนุษย์
ทั้งนี้สาเหตุที่ตะพาบยักษ์แยงซีเกียงมีปริมาณลดลงจนเสี่ยงสูญพันธุ์อย่างในปัจจุบันนั้น เชื่อกันว่ามาจากการที่มันถูกคุมคามแหล่งที่อยู่อาศัยอย่างหนักโดยมนุษย์ และปัญหาทางมลภาวะนั่นเอง
ท้ายที่สุดแล้วความหวังอันริบหรี่ที่ยังพอเหลืออยู่ของตะพาบยักษ์สายพันธุ์นี้สำหรับเหล่านักอนุรักษ์แล้วก็คงจะอยู่ที่การที่จู่ๆ พวกเขาก็พบกับตัวเมียตัวใหม่ในเร็วๆ นี้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นตะพาบชนิดนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นจากการสูญพันธุ์ และต้องหายไปจากโลกใบนี้อย่างน่าเศร้าอย่างแน่นอน
ที่มา livescience, bbc, mongabay และ foxnews
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.