เมื่อ 163 ปีก่อนคริสตกาล ใกล้ๆ พื้นที่เมืองฉางชามณฑลหูหนาน ประเทศจีนในปัจจุบัน ได้มีร่างไร้วิญญาณของหญิงคนหนึ่งถูกฝังเอาไว้ในสุสานขนาดใหญ่
ร่างนั้นถูกระดับไปด้วย วัตถุล้ำค่ากว่า 1,000 ชิ้น ตั้งแต่อุปกรณ์ แต่งหน้า อุปกรณ์อาบน้ำ และงานไม้ขัดเงาอีกหลากหลายชนิด
ร่างของเธอถูกพบอีกครั้งหนึ่งหลังจากวันนั้นร่วม 2,000 ปี เมื่อมีค้นงานก่อสร้างพบสุสานของเธอเข้าในปี 1971
และเมื่อนักวิยาศาสตร์ตัดสินใจเปิดสุสานของเธอ พวกเขาก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะร่างของหญิงคนนี้นั้น แทบจะไม่ได้เน่าเปื่อยเสียหายไปเลย
หญิงคนนี้มีนามว่า “ซินจุย” ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ฮัน (ราชวงศ์ที่ครองบัลลังก์ตั้งแต่เมื่อ 206 ปีก่อนคริสตกาล จนถึง ค.ศ. ที่ 220) และในปัจจุบันถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในมัมมี่ที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดในโลก
อ้างอิงจากทีมนักวิทยาศาสตร์ร่างของเธอนั้นยังคงความนุ่มของผิวคนไว้ได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะผ่านเวลามามากกว่า 2,000 ปี แถมเส้นขนส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ทั้งผมบนศีรษะ ขนคิ้ว ขนจมูก หรือแม้กระทั่งขนตา
นอกจากผิวหนังด้านนอกที่ยังสมบูรณ์แล้วซินจุยก็ยังมีเครื่องในอยู่อย่างครบถ้วน แถมยังมีเลือดเหลืออยู่จนทำให้นักวิทยาศาสตร์บอกได้ว่าเธอมีเลือดกรุ๊ปเอ
ทำให้นับว่าน่าเสียดายมากที่เรื่องราวในตอนที่มีชีวิตอยู่ เรื่องราวของเธอกับไม่ค่อยไม่บันทึกอยู่เท่าที่ควร เมื่อเทียบกับความมหัศจรรย์ของตัวมัมมี่
อย่างไรก็ตามเราก็ทราบได้จากการพิสูจน์ศพว่าเธอน่าจะเสียชีวิตในตอนที่อายุได้ราวๆ 50 ปีจากการที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
เนื่องจากมีการพบร่องรอยของอาการคอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง และโรคตับ และร่องรอยการอุดตันในเลือด ซึ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเธอนั้นเสียชีวิตจากโรคหัวใจ
จริงอยู่ว่าใบหน้าของเธอที่เราเห็นในปัจจุบันอาจจะดูบวมๆ น่ากลัวอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นเพราะร่างกายของเธอถูกเก็บไว้มานาน
และในตอนที่หลุมศพของเธอถูกขุด ร่างของเธอก็ได้ไปสัมผัสกับออกซิเจนเข้าทำให้การเสื่อมสภาพเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็วไป
ใบหน้าของเธอซินจุยที่นักวิทยาศาสตร์จำลองขึ้นจากข้อมูลที่มี
ที่ร่างของเธอถูกเก็บไว้เป็นอย่างดีเช่นนี้ นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นเพราะเธอนั้นถูกเก็บไว้ในสุสานใต้ดินที่ลึกเกือบๆ 12 เมตร และมีการใช้โลงศพหลายชั้นซึ่งทำให้ลมเข้าไม่ได้ และลดการเน่าเปื่อยลงได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ตัวเธอยังถูกพันไว้ด้วยผ้าไหมและแช่ด้วย “ของเหลวไม่ทราบที่มา” ซึ่งมีความเป็นกรดอ่อนๆ และมีส่วนผสมของแมกนีเซียมซึ่งเป็นไปได้ว่ามีส่วนช่วยในการป้องกันแบคทีเรีย
เรียกได้ว่าแทบทุกสิ่งในสุสานของเธอนั้นออกแบบมาเพื่อป้องกันการเน่าสลายเลยก็ไม่ผิดนัก
และด้วยความใส่ในในการรักษาความงามแม้หลังความตายนี้เองก็ทำให้ร่างของหญิงคนหนึ่งอยู่เก็บรักษาไว้อย่างดี จนกลายเป็นมัมมี่สุดโด่งดัง ที่หลงเหลือมาให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสเยี่ยมชมไปอีกแสนนาน
ที่มา allthatsinteresting
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.