อัปเดตคดี “แม่ค้ากามลูกสาววัย 5 ขวบ” ตาของเด็กชี้ “ผู้ก่อเหตุเป็นพ่อเด็กจริง” มีอาการทางจิต

จากที่เพื่อนๆ ได้อ่านข่าวคดีอันน่าสลดที่เกิดขึ้นใน จ.ฉะเชิงเทรา “แม่ค้ากามลูกสาววัย 5 ขวบ” พร้อมมีการระบุว่า นายวินัย วัย 52 ปี ผู้ซื้อบริการมานานเกือบปีนั้นเป็น “พ่อแท้ๆ” ของเด็ก

อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: สรุปประเด็น “แม่ค้ากามลูกสาววัย 5 ขวบ” แท้จริงหนุ่มใหญ่ซื้อบริการอาจเป็น “พ่อแท้ๆ” ของเด็ก

ล่าสุดวันนี้ (23 เมษายน 2019) ได้มีการรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคุณตาของเด็กหญิงนั้นได้ออกมายืนยันว่า “นายวินัยเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กจริง”

นายวินัย และ น.ส.ศุภลักษณ์ แม่ของเด็ก

จากการรายงานกล่าวว่า คุณตาของเด็กได้ออกมายืนยันในเรื่องนั้น โดยให้การว่าเมื่อหลายปีก่อน น.ส.ศุภลักษณ์ แม่ของเด็กและลูกสาวของตนเอง เคยออกมายอมรับว่าเด็กหญิงเป็นลูกของนายวินัย

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ก็ทำให้ผู้เป็นตาขอ “ตัดพ่อตัดลูก” กับ น.ส.ศุภลักษณ์ นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

อีกทั้งทางฝั่งน้าสาวของเด็กเองก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เด็กหญิงวัย 5 ขวบเคยนำเรื่องที่ตัวเองถูกขืนใจไปเล่าให้ครูในโรงเรียนฝั่ง บอกว่า “หนูเจ็บจิ๋ม ถูกพ่อนัยทำ” แต่กลับถูกทุกคนมองว่าเป็นเรื่องโกหก

อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเช้าของวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกนายวินัย และ น.ส.ศุภลักษณ์ เข้ามาทำการสอบปากคำ

ในรายงานกล่าวว่า แม่ของเด็กนั้นดูไม่มีอาการตึงเครียดใดๆ ตอบข้อซักถามได้อย่างฉะฉาน แตกต่างกับนายวินัยที่ดูมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ทางญาติของนายวินัยก็ได้เข้ามายื่นเอกสารการเข้ารับการรักษาอาการป่วยทางจิตเวช ที่ โรงพยาบาลพนมสารคาม ให้แก่พนักงานสอบสวน เพื่อประกอบสำนวนทางคดี

เอกสารดังกล่าวนั้นเผยว่าชายวัย 52 ปีคนนี้กินยารักษามาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว แต่กลับไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคชนิดใด ซึ่งเอกสารอาการป่วยนี้ถือว่ามีผลต่อการทำสำนวนเพื่อประกอบคดีต่อไป

หลังจากการสอบปากคำก็ได้มีการควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาส่งฝากขังผลัดแรกแล้วในช่วงบ่ายที่ผ่านมา พร้อมกับคัดค้านไม่ให้มีการประกันตัว

สำหรับเรื่องที่ว่านายวินัยเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะส่งตัวอย่าง DNA ของนายวินัยไปตรวจสอบกับทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาความเกี่ยวข้องทางสายเลือด และจะสืบสวนหารายละเอียดต่อไป

หากเด็กหญิงเป็นสายเลือดเดียวกันกับนายวินัยจริง เขาก็อาจถูกตัดสินให้รับโทษเพิ่ม

คลิปขณะควบคุมตัวผู้ต้องส่งฝากขัง

ที่มา: รถตระเวนข่าว V.2 , Bright TV