หนุ่มเห็นสุนัขที่รับเลี้ยงมามีรอยสัก เลยไปสักตาม แต่เอ๊ะ?! นั่นมันสัญลักษณ์ “การทำหมัน” นี่!!

สัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น หมา แมว นก ปลา ฯลฯ เราอาจไม่ได้มองว่ามันเป็นแค่สัตว์เลี้ยงของเรา แต่มันอาจเปรียบเหมือนดั่ง “เพื่อนแท้” ที่คอยมอบรอยยิ้ม ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน

และนั่นคงเป็นความรู้สึกเดียวกันกับชายที่ชื่อว่า Chris Mendiola หนุ่มอเมริกัน จากรัฐเท็กซัส เมื่อเขาเห็นว่าน้องหมาของตัวเองที่รับเลี้ยงมานั้นมีสัญลักษณ์แปลกๆ เหมือนเป็น “รอยสัก” ติดอยู่บนร่างของมัน

Chris และ Bear สุนัขของเขา

เขาเข้าใจว่าเจ้า Bear คงโดนเจ้าของเก่าสักให้กับมัน ซึ่งนั่นคงเป็นความทรงจำที่ไม่ดีเท่าไหร่ของน้องหมาตัวนี้ ด้วยเหตุนั้นเอง เขาจึงตัดสินใจสักเป็นรูปเดียวกันกับมันซะเลย

เมื่อเขาเห็นว่าน้องหมาเหมือนโดนบังคับให้สักหมา เขาจึงสักเป็นรูปเดียวกันกับมันเลย

เขาโพสต์ภาพของตัวเองและน้องหมาที่เลี้ยงมานานกว่า 6 ปีลงในเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความว่า…

“สำหรับใครที่รู้จักกับเจ้า Bear คุณก็คงรู้ว่ามันมีเหมือนรอยสักติดอยู่ เหมือนเป็นรอยที่มาจากเจ้าของคนเก่าของมัน”

“เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับผมที่ได้รับรู้ว่ามีคนสักลายลงไปบนสัตว์เลี้ยงของตัวเองด้วย คืนนี้ผมเลยมีรอยสักเหมือนมันซะเลย”

ฟังดูก็รับรู้ได้เลยว่าเขารักสุนัขของตัวเองมากขนาดไหน แต่ทว่า “รอยสัก” นั้นกลับมีความหมายมากกว่าที่หลายๆ คนคิด

หลังจากที่เขาโพสต์ภาพและเรื่องราวนั้นลงไป เพื่อนในเฟซหลายๆ คนก็แห่กันเข้ามาคอมเมนต์ว่าที่เห็นอยู่นั้นมันคือ “สัญลักษณ์ของการทำหมัน”

เพื่อนคนหนึ่งคอมเมนต์ว่า “หมาตรูก็มีสัญลักษณ์นี้เหมือนกัน” ในขณะที่อีกคนก็บอกว่า “งี้ก็แสดงว่านายเองก็ทำหมันมาแล้วเหมือนกันสินะ”

สัญลักษณ์ว่าสุนัขทำหมันแล้ว

งานนี้ทำเอาโพสต์ของเขาถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งแม้ว่านี่จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2017 แต่มันกลับยังคงถูกแชร์ต่อๆ กันมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม Chris ก็ได้ออกมาพูดหลังจากที่เริ่มมีคนพูดกันอย่างหนาหู เขาบอกกับทุกคนว่า “จริงๆ ผมรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของอะไร เพราะการที่ผมเลี้ยงมันมาได้สักพัก ผมก็ต้องศึกษาเรื่องอะไรแบบนี้บ้างอยู่แล้ว”

“ถึงยังไงผมก็ยังคงมองว่ามนุษย์ไม่ควรที่จะไปเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของมันอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นการตัดหู ตัดหาง หรือแม้แต่การทำหมันก็ตาม ผมจึงไม่นึกเสียใจเลยที่ได้ร่วมแบ่งปันความเจ็บปวดของมันผ่านรอยสักนี้”

ที่มา: gizmodo , boredpanda , unilad