เชื่อว่าเพื่อนๆ ที่ติดตาม ซีรีส์เกาหลีอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของ “ฮวารัง” (화랑) กันมาบางไม่มากก็น้อย
พวกเขานั้นเป็นเหล่านักรบแห่งอาณาจักรชิลลา หนึ่งในอาณาจักรแห่งยุคสามก๊กเกาหลี ที่เชื่อกันว่ามีบทบาทเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 6 และมีจุดเด่นในฐานะกลุ่มที่ถูกเรียกมาจากชนชั้นสูงและฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งจะบอกว่าเป็นตำแหน่งที่เหมือนกับนำทหารเยาวชนกับอัศวินชั้นสูงของทางยุโรปมาผสมกันก็คงได้
สิ่งที่แตกต่างจากนักรบของที่อื่นๆ คือ ฮวารัง (ซึ่งมาจากคำว่า “ฮวา” ที่แปลว่าดอกไม้ และ “รัง” ที่มักใช้เรียกผู้ชาย หรือสุภาพบุรษ) มักถูกบรรยายไว้ว่าประกอบไปด้วยหนุ่มๆ (ที่มักจะรูปงาม) จากตระกูลมีชื่อ ซึ่งเดินทางมาเรียนรู้วิชาร่วมกันในสถาบันการศึกษาแบบเฉพาะ และยังมีหน้าที่มากกว่าการออกรบ
ในบางตำราบอกว่า เหล่าฮวารังจะเรียนรู้วิชาในรูปแบบที่คล้ายกับการฝึกนักเรียนทหาร แต่จะมีการฝึกฝนความรู้ในเชิงอักษรศาสตร์ ศิลปะ และศาสนาไปในตัว ซึ่งเหล่าเด็กหนุ่มที่จบการศึกษาจะสามารถเลือกเส้นทางชีวิตอื่นๆ ได้ หากว่าต้องการ
อ้างอิงจากแหล่งข้อมูล ฮวารัง คาดกันว่าถูกก่อตั้งขึ้นโดยพระเจ้าจินฮึงแห่งซิลลาผู้ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ปี 540-576 โดยมีต้นแบบมาจาก “วอนฮวา” (원화 แปลว่าดอกไม้ดั้งเดิม) กลุ่มหญิงสาวที่เชื่อว่ามีระบบการทำงานคล้ายๆ กันอีกที
ตามปกติแล้ว ฮวารังจะรับหน้าที่เป็นกองกำลังสนับสนุน และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของ ฮวารัง จะมาจากงานวรรณกรรมมากกว่าบันทึกทางการ ดังนั้นหน้าที่ของ ฮวารังในหลายๆ จุดจึงยังเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันในหมู่นักโบราณคดีอยู่
ภาพที่จำลองเหล่าฮวารังของอาณาจักรชิลลา
เป้าหมายของการฝึกฮวารังนั้นมีบันทึกไว้มากมายหลายรูปแบบ ตั้งแต่เพื่อออกรบเป็นทหารระดับสูง เพื่อฝึกจรรยาบรรณและวินัย หรือแม้แต่เพื่อเป็นแบบอย่างทางศาสนาและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการออกรบโดยตรง
การฝึกตนในด้านศาสนาของเหล่าฮวารังเชื่อกันว่าเป็นการสอนที่ผสมผสานกันของศาสนาและความเชื่อที่หลากหลาย อีกทั้งนักรบแต่ละคนยังต้องฝึกฝนอาวุธหลากหลายชนิด ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามความถนัดและตำราที่บันทึกเรื่องราวของพวกเขาไว้
อย่างไรก็ตามโดยมากแแล้ว ฮวารังจะขึ้นชื่อเรื่องการฝึกยิงธนูบนหลังม้า และมีกฎสำคัญที่ต้องยึดมั่นปฏิบัติอยู่ 5 ข้อได้แก่
1. จงภักดีต่อกษัตริย์
2. จงภักดีต่อบิดามารดา
3. จงภักดีต่อพ้องเพื่อน
4. ห้ามถอยหนีจากการรบ
5. ห้ามฆ่าใครโดยที่ไม่จำเป็น
น่าเสียดายที่เรื่องราวของฮวารังนั้นหายไปจากประวัติศาสตร์ของเกาหลีแบบรวดเร็วกว่าที่คิด อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ใช่ว่าจะหายไปจากจากโลกโดยสมบูรณ์ เพราะตั้งแต่ที่เรื่องราวของพวกเขาถูกค้นพบในช่วงยุค 1980 เรื่องราวของพวกเขาก็มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากจากทั่วโลก
และแน่นอนว่าชื่อเสียงของของคนกลุ่มนี้ก็คงจะอยู่ในใจของคนรุ่นหลังไปอีกนานแสนนานเลย
ที่มา ancient-origins, koreanhistoricaldramas และ newworldencyclopedia
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.