กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กับกรณีของหนุ่มลูกครึ่ง ติดเชื้อ HIV จากการ ‘รับเกล็ดเลือด’ จากโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
เรื่องมีอยู่ว่าหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น วัย 24 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวตั้งแต่อายุ 9 ขวบ คุณแม่ก็เลยพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้
ซึ่งการรักษาจะมีลักษณะเป็นคอร์ส ในคอร์สจะต้องทำคีโม และให้เกล็ดเลือดเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาว แต่พอดำเนินการรักษามาถึงการให้เลือดถุงที่ 12 ก็พบว่าผู้ป่วยมีอาการทรุด ไข้ขึ้น และยิ่งทรุดหนักลงจนร่างกายผอม
อีกทั้งหมอเจ้าของเคสได้ทำการแจ้งให้ทราบว่า ลูกของตนมีเชื้อวัณโรคแทรก จึงต้องทำการรักษาใช้เวลา 6 เดือน จนหายกลับมาเป็นปกติ
แต่ทว่าหลังจากที่รักษาจนหายดี คุณหมอที่ทำการรักษาประจำก็ถามแม่ว่า พ่อแม่มีเชื้อ HIV ไหม? แน่นอนว่าคุณพ่อกับคุณแม่ก็ยืนยันว่าไม่มี…
ก็เลยเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา เพื่อสืบหาสาเหตุว่าเชื้อมาจากทางไหน โดยโรงพยาบาลทำการเรียกประชุมคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งแพทย์ และครอบครัว รวมไปถึงเรียกทนายความมาด้วย
บทสัมภาษณ์จากช่อง AMARIN TV
ฝ่ายครอบครัวเล่าว่าไม่อยากเอาความ แต่อยากให้ทางโรงพยาบาลดูแลลูกให้ดี
อีกทั้งยังเปิดเผยว่าตอนคุยกัน มีคนของสภากาชาดโรงพยาบาลมาคุยด้วย ซึ่งรับปากว่าจะดูแลลูกไปตลอดชีวิต และรับผิดชอบทุกอย่าง
ซึ่งทางคุณแม่และครอบครัวก็ยอมและไม่ติดใจอะไรต่อ เพียงแค่ไม่อยากให้ลูกรู้เรื่อง จึงยังไม่ได้ทำสัญญาเป็นเอกสารอะไรกับทางโรงพยาบาล มีเพียงแค่การตกลงกันปากเปล่าเท่านั้น
เรื่องราวดังกล่าวถูกเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด ซึ่งหลังจากที่ติดเชื้อทางโรงพยาบาลก็รักษาให้ตามอาการ และตัวลูกที่เป็นผู้ป่วยก็มีประกันกับบริษัทประกันของญี่ปุ่น ที่พ่อของน้องทำงานอยู่
แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานบริษัทประกันก็ทราบเรื่องดังกล่าว ก็เลยไม่รับทำประกันให้อีก จากที่ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ตอนนี้ก็เริ่มเกิดปัญหาขึ้นแล้ว
โดยคุณแม่เปิดเผยว่าหลังจากเรื่องดังกล่าว คุณพ่อของน้อง ที่ไปทำงานที่เวียดนาม 3 ปี ก็ขาดการติดต่อไปเลย
ซึ่งก่อนหน้านั้นครอบครัวก็ไม่ได้พาน้องไปรักษากับโรงพยาบาลเลย เป็นเวลาราวๆ 2-3 ปี โดยหันไปรักษาด้วยสมุนไพร เนื่องจากว่าผู้ป่วยทานยาของโรงพยาบาลแล้วมีผลข้างเคียงมาก
แต่พอเกิดปัญหาก็เลยจะกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องดังกล่าวต่อ กลับว่าโดนทางโรงพยาบาลบ่ายเบี่ยง
ซึ่งครอบครัวอ้างว่า ทางโรงพยาบาลบอกว่าได้เปลี่ยนผู้อำนวยการใหม่ และให้ไปเอาเอกสารหรือสัญญาอะไรก็ตามมาให้ดู แต่ทางครอบครัวไม่มี สุดท้ายก็เลยบอกให้ไปรักษาโดยใช้สิทธิ์ 30 บาทแทน
หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวครอบครัวก็เลยตัดสินใจบอกความจริงกับน้อง ก็เลยตัดสินใจออกมาร้องเรียน จนกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในโซเชียลนั่นเองครับ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา รายการทุบโต๊ะข่าว จากช่อง Amarin TV รายงานเพิ่มเติมว่ามีคลิปเสียงของคุณหมอถูกปล่อยออกมา
เป็นการยอมรับว่าให้เลือดไปจริงๆ เป็นเลือดของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งที่ติดเชื้อ HIV และในคลิปเสียงเปิดเผยว่าตำรวจคนดังกล่าวได้เสียชีวิตไปแล้ว
ลองไปฟังคลิปเสียงกันดูครับ
ก็คงต้องรอฟังคำชี้แจงจากทางโรงพยาบาลต่อไป ว่าจะรับผิดชอบอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ หากมีอะไรคืบหน้า #เหมียวหง่าว จะรีบคาบข่าวมาบอกเพื่อนๆ อย่างเร็วไวเลยครับ
ที่มา : khaosod, AMARIN TVHD, msn
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.