บางครั้งเรื่องเพียงแค่เล็กน้อยก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้ เพราะด้วยอารมณ์และการตัดสินใจในช่วงเวลานั้น ดั่งเช่นกรณีที่เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร
เมื่อคุณลุงวัยดึกคนหนึ่งไปเดินเที่ยวห้าง แต่จู่ๆ ก็มีเด็กเข็นรถเข็นมาชน คุณลุงเลยควักปืน (ปลอม) ออกมาขู่เด็กคนนั้นซะเลย…
ในช่วงเย็นของวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสภ.เมืองสมุทรสาครได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนใช้อาวุธปืนข่มขู่ภายในห้างฯ บิ๊กซี สาขามหาชัย จึงประสานเรื่องไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์
โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงจุดเกิดเหตุก็พบกับคุณลุงคนที่ใช้อาวุธปืนปลอมและผู้เสียหายยืนอยู่ด้วยกัน จึงได้เรียกตัวทั้งคู่ไปที่โรงพักเพื่อสอบปากคำ
นายสุรนันท์ ไวยกาญจน์ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร พ่อของเด็กที่ถูกลุงขู่เล่าว่า ในวันนั้นตนพาลูกไปเดินซื้อของใช้ก่อนเปิดเทอมภายในห้างบิ๊กซี
แล้วก็มีลุงคู่กรณีเดินมาชนลูกสาววัย 7 ขวบของตน ต่อมาลูกของตนก็เข็นรถไปชนลุงคู่กรณีโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ทันใดนั้นเองคุณลุงกลับชักปืน (รู้ทีหลังว่าเป็นปืนปลอม) ออกมาโชว์
ซึ่งถ้าตอนนั้นตนมีอาวุธปืนก็คงยิงสวนกลับไปแล้วเพราะต้องปกป้องลูกสาว แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม
“ตอนที่ลุงชักปืน ออกมานั้น มีคนเห็นกันเยอะแยะมากมาย ครั้นพอลูกสาวตนเห็น เกิดตกใจกลัวจึงเดินหนี แต่ลุงคู่กรณีก็ยังเดินตามมาแล้วบอกให้อยู่เฉยๆ ซึ่งความที่ตนเองไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม จึงไม่กล้าเข้าชาร์จ
พอเด็กยืนนิ่งๆ เจ้าตัวก็ยืนด่าอยู่หลายคำ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความตกใจกลัวให้กับทั้งตนและลูก รวมถึงคนที่เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
โดยตนคิดว่า อาวุธปืนที่นำออกมาโชว์นั้น ไม่ว่าจะเป็นปืนจริงหรือปืนปลอมก็ไม่ควรที่จะกระทำแบบนี้” คุณพ่อของเด็กกล่าว
ขณะเดียวกันนายสมบัติ เอื้ออารีย์ อายุ 70 ปีคุณลุงคู่กรณี ก็ขอเล่าบ้างว่าไม่มีอะไร คุณลุงเพียงแค่มาเดินเที่ยวห้างเพียงเท่านั้น ไม่ได้เคยรู้จักกับคู่กรณีมาก่อน
ส่วนเหตุการณ์คือเด็กเอารถเข็นมาชนหลังจนตนเกือบล้มคว่ำ ตนก็เลยหันไปถามเด็ก ว่า “มาชนทำ…อะไร” แค่นั้นเอง แล้วตนก็ถูกด่ากลับ พร้อมบอกด้วยว่าคนที่อยู่แถวนั้นต่างก็ได้ยินกันหมดว่าตนถูกด่ามากกว่าที่ด่าอีกฝ่ายอีก
หลังจากนั้นคุณลุงก็เล่าต่อว่าหลังจากตอนนั้น อีกฝ่ายก็ยังเดินตามมา ตนก็เลยชักเอาปืนไฟแช็กที่พกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอดออกมาเพื่อขู่แค่เท่านั้น แต่ก็จับแค่ตรงกระบอกปืนไม่ได้จับตรงด้าม
เพราะคิดว่าถ้าอีกฝ่ายเข้ามาทำร้าย ก็จะใช้ปืนไฟแช็ก ‘ตี’ นั่นเอง
ในที่สุดแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บปืนไฟแช็กไว้เป็นหลักฐาน และให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน ซึ่งทางผู้เสียหายก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร ทางตำรวจจึงเปรียบเทียบปรับเงินคุณลุงไป 1,000 บาทตามกฎหมาย…
คลิปขณะทั้งสองเจรจา
หวิดคุกแล้วไหมล่ะ ลุง!!
ที่มา: thairath, เรื่องเด่นเย็นนี้
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.