สรุปประเด็น เหตุใดโครงการปล่อยกู้ “โดรนเพื่อการเกษตร” จึงถูกวิจารณ์ว่าเอื้อกลุ่มนายทุน

เมื่อไม่นานมานี้ นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยว่าในปี 2019 นี้ ทาง ธ.ก.ส. ได้เตรียมวงเงินพิเศษสำหรับกลุ่มเกษตรกร

วงเงินที่เตรียมไว้นั้น คือวงเงินสินเชื่อสำหรับการซื้อ “อากาศยานไร้คนขับ” หรือที่เราเรียกกันว่า “โดรน” รวมถึงเครื่องจักรอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกร วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท!!

โดยเบื้องต้นนั้น พวกเขาคาดว่าจะมีเกษตรกรซื้อโดรนสำหรับใช้ทำการเกษตรไม่ต่ำกว่า 100 ลำ ในราคาลำละ 500,000 บาท เพื่อทดแทนแรงงานในการพ่นยาฆ่าแมลง หว่านเมล็ดพันธุ์ ลดต้นทุนการผลิต

บางคนอาจสงสัยว่า การใช้โดรนในการเกษตรนั้นมันได้ผลดีจริงหรือไม่?

พวกเขากล่าวว่าในปีก่อน (2018) มีกลุ่มสหกรณ์ขอสินเชื่อเพื่อซื้อโดรนไปแล้ว ทั้งหมด 60 ลำ วงเงิน 30 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรเหล่านั้นยืนยันว่าการใช้โดรน “ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้จริง”

นั่นเพราะการใช้โดรนช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ย ลดเวลาในการหว่านเมล็ดพืช และยังลดค่าจ้างแรงงานคน ตกไร่ละ 500 บาท

ทั้งนี้ ธนาคารยังบอกอีกว่า พวกเขาตั้งใจที่จะเน้นให้เกษตรกรรวมกลุ่มกัน เพื่อให้ได้ใช้โดรนร่วมกัน เนื่องจากต้นทุนค่าเครื่องนั้นค่อนข้างสูง

เครื่องละ 500,000 บาท นั้นตอบโจทย์เกษตรกรจริงหรือ?

นายระวี รุ่งเรือง นายกสมาคมเครือข่ายชาวนาไทย เขาได้เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น ว่า วงเงินดังกล่าวของทาง ธ.ก.ส. นั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการลดต้นทุนผลิต ทดแทนแรงงานได้

แต่หากเฉลี่ยค่าใช้จ่ายโดรน 1 ตัว อยู่ที่ลำละ 500,000 บาทนั้น มันถือว่าเป็นราคาที่สูงมาก

อีกทั้งในสถานการณ์ปัจจุบันของภาคการเกษตรที่ยังไม่ได้มีการจัดระบบ ยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องนาแปลงใหญ่ มันจึงถือว่ายังไม่มีความจำเป็นสำหรับเกษตรกรรายย่อย

เพราะอย่างนั้นแล้ว โดรนจึงยังคงสามารถนำมาใช้ได้แค่ในภาคการเกษตรที่เป็นนาแปลงใหญ่ มีพื้นที่หลายร้อยไร่ หรือเป็นกลุ่มของนายทุนเท่านั้น และจำเป็นต้องมีการวางแผนให้รัดกุมก่อนการใช้งาน เพื่อความคุ้มค่า

เข้าใจว่าหวังดี แต่ตอนนี้เกษตรกรอาจยังไม่พร้อม…

นายระวี กล่าวว่า ตนเองเข้าใจในความหวังดีของทาง ธ.ก.ส. แต่อยากให้มีการส่งเสริมความรู้และคำนึงถึงสถานการณ์ในปัจจุบันเสียก่อน

ขณะเดียวกัน ด้วยสถานการณ์การเมืองไทย ณ ตอนนี้ ในฐานะของเกษตรกรแล้ว เขาก็คาดหวังว่าพรรคการเมืองที่กำลังรวมกลุ่มจัดตั้งรัฐบาล และผู้นำประเทศในอนาคตนั้นหันมาช่วยเหลือความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้น

ที่มา: sanook , innnews