ครูสาวมีสัมพันธ์ลับกับ ผอ. เลยต้อง “แสร้งเป็นทอม” เข้าร้องเรียนเพราะเขามีคนอื่น

ในหลายๆ ครั้ง รูปแบบของความสัมพันธ์ที่คลุมเครือก็อาจนำไปสู่เรื่องราวที่ซับซ้อนจนทำให้หลายๆ คนไม่เข้าใจ เช่นเดียวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้

ในวันที่ 23 พ.ค. 2019 รายการ ทุบโต๊ะข่าว ได้ออกมารายงานถึงเรื่องราวของ ว่าที่ ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ “ครูสาวที่ต้องแสร้งเป็นทอม” หลังจากที่แอบมีความสัมพันธ์ลับๆ กับ ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียน

 

การสัมภาษณ์ของทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว

 

จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ลับ…

อย่างแรกคือต้องบอกกันว่า ผอ. คนนั้น “มีภรรยาอยู่แล้ว” และมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน แต่พวกเขานั้นมีปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์และแยกบ้านกันอยู่

ส่วนทางด้าน “ครูสาว” นั้น เธอเอง “เคยมีสามี” มาก่อนแล้ว และตัดสินใจหย่าร้างกันไปในปี พ.ศ.2552 ก่อนที่จะกลับมาจดทะเบียนด้วยกันอีกครั้งในปีถัดมา ด้วยเหตุผลที่ว่า “มีผู้หญิงจะมาพยายามจับอดีตสามีของเธอ”

อย่างไรก็ตาม ครูสาว ก็แค่จดทะเบียนเอาไว้ ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับสามีเก่าของตัวเองแต่อย่างใด จนกระทั่งในเวลาต่อมา เธอก็ได้เริ่มที่จะสนิทสนมกับทาง ผอ. มากยิ่งขึ้น

 

 

ครูสาว เล่าว่าในตอนแรกสุดนั้น ทางฝั่ง ผอ. แค่มาขอให้เธอช่วย “สอนยิงปืน” ซึ่งเธอนั้นก็เป็นถึง “นักกีฬาทีมชาติ” และครูสอนยิงปืนอยู่แล้ว เธอจึงไม่ปฏิเสธที่จะช่วยสอนให้กับ ผอ. คนนั้น

วันเวลาผ่านไป พวกเขาก็เริ่มใกล้ชิดกัน ในขณะที่ทางฝั่ง ผอ. ก็เริ่มนำปัญหาส่วนตัวมาปรับทุกข์กับเธอ จนทำให้จากตอนแรกที่ ครูสาว ไม่ได้คิดอะไรและรู้ว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว พอนานๆ เข้าก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็น “ความสงสาร”

พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มคบหากันในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.2554 โดยที่ ครูสาว บอกว่าทางฝั่งภรรยาของ ผอ. นั้นอาจจะสังเกตเห็นได้ถึงความสัมพันธ์ลับที่เกิดขึ้น

 

 

ผอ. ขอให้ “แสร้งเป็นทอม” …?!

คงไม่แปลกที่หากเกิดความสัมพันธ์ชู้สาวขึ้นภายในที่ทำงานเดียวกันนั้น เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็อาจสังเกตเห็นได้ถึงความผิดปกติ และเริ่มนำไปพูดต่อๆ กันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเขารู้กันไปทั่ว

เพื่อไม่ให้เป็นข่าวลือหนาหูไปมากกว่านี้ ทางฝั่ง ผอ. จึงขอให้ ครูสาว “แสร้งเป็นทอม” ตัดผมที่เคยยาวให้สั้นเหมือนผู้ชาย แต่งกายซะจนดูเป็นอย่างนั้นไปโดยปริยาย

ผอ. ให้เหตุผลว่า เมื่อ ครูสาว ทำแบบนี้แล้ว เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันก็จะสะดวก ไม่ถูกเอาไปพูดลับหลัง โดยเฉพาะในตอนที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดกันสองคน

 

 

และที่ ครูสาว ยอมถึงขนาดนั้น เธอก็บอกกับทางผู้สื่อข่าวว่า “เราปรึกษากันแล้ว กลัวคนจะมอง ผอ. ไม่ดี เพราะชื่นชมท่าน ท่านเป็นคนเก่ง ทำงานเก่ง”

“การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็เป็นเหมือนดั่งฝัน ไม่มีตัวตนในโลกความเป็นจริง เพราะไม่แย่งชิงจากใคร และไม่บอกออกไปว่าคบกันยังไง” เธอกล่าว

 

 

สำหรับ ครูสาว เธอมองว่านี่คือความรักที่สามารถมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กันได้ แม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง เงินเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาทีมชาติที่ได้นับล้านบาท ทั้งหมดนั้นเธอก็ยกให้กับ ผอ.

เธอยังบอกอีกว่าตนเองนั้นก็ “ไม่ได้คิดจะแย่งสามีใคร” หากแต่ยอมรับว่าได้แอบมีความสัมพันธ์ต่อกัน

 

 

คบกันมาตั้งนาน ทำไมถึงเพิ่งนำเรื่องนี้ออกมาพูด?

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ครูสาว ไม่เคยนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังเลย เพราะไม่อยากให้มันส่งผลเสียต่อทาง ผอ.

แต่เมื่อวานนี้ เธอก็ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปร้องเรียนยัง ศูนย์ดำรงธรรม จ.ชุมพร และยอมรับอย่างชัดเจนว่าตนเองแสร้งเป็นทอมมาโดยตลอด และมีความสัมพันธ์ลับกับ ผอ. จริง

 

 

เธอให้เหตุผลว่าที่ออกมาทำอย่างนี้ก็เพราะตนเองกำลังอยู่ในช่วง “เตรียมจะแข่งกีฬา” จึงไม่มีเวลาให้กับความสัมพันธ์ และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเห็นว่า ผอ. แอบโทรคุยกับคนอื่นจนดึกจนดื่น

สิ่งนั้นนำไปสู้ความระหองระแหงแคลงใจ ทางฝั่ง ผอ. เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย อยากมีคนใหม่ มองว่าเธอเป็นเหมือนดั่งหอกข้างแคร่ พยายามที่จะบีบเธอออกจากโรงเรียน

ด้วยเหตุนั้น เธอจึงนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาร้องเรียน โดยส่วนตัวไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นตัวทำลายชีวิตของทั้งเธอและเขา เพราะเธอนั้นไม่ได้ทำไปด้วยความแค้นแต่อย่างใด

ครูสาว กล่าวว่าเธอทำอย่างนี้ก็เพราะ “เป็นห่วง” ผอ. เธอเข้าใจว่าคนที่เขาคบอยู่ตอนนี้ดูไม่ใช่คนดี มีปัญหาเรื่องชู้สาว ซึ่งถ้าหาก ผอ. คบผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่คนนี้ เธอก็คงจะไม่ว่าอะไร

 

ที่มา: ทุบโต๊ะข่าว