หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ เดอะ ทอยส์ หรือ ทอย ธันวา บุญสูงเนิน นักร้องหนุ่มขวัญใจวัยรุ่น ถูกชายคนหนึ่งขึ้นไปป่วนการแสดง จนทอยต้องทิ้งกีตาร์หยุดการแสดงกลางคันก็กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา
อ่านข่าวเก่า: สรุปประเด็น ‘เดอะทอยส์’ ทิ้งกีตาร์ เลิกทำการแสดง หลังมีคนขึ้นป่วนบนเวที
ล่าสุดหนุ่มทอยได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง#เหมียวบู้บี้ ก็ได้สรุปบทสัมภาษณ์มาส่วนหนึ่งดังนี้
นักข่าว: เล่าเหตุการณ์ที่เกิดวันนั้นให้ฟังหน่อยครับ
ทอย: ผมจำไม่ได้ทั้งหมดนะครับ ผมนั่งรถจากพิจิตรกว่า 8-9 ชั่วโมงเพื่อไปเล่นที่พม่า บนเวทีก็คือเท่าที่เห็นกัน
นักข่าว: ก่อนหน้านั้นมันเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้เราไม่ยอมรับเงิน ทำให้เราหมดฟีลเล่นไปแล้ว
ทอย: ผมคิดว่าเราคงจะได้รับวัฒนธรรมการชมดนตรีที่แตกต่างกันออกไป ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้
นักข่าว: ตกใจไหม
ทอย: จำไม่ได้ทั้งหมด จำได้ว่ากำลังจะร้องเพลงท่อนต่อไป รู้ตัวอีกทีก็โดนล็อกคอ หายใจไม่ออก
นักข่าว: วินาทีนั้นรู้สึกยังไง เค้าพูดอะไรมั้ย
ทอย: ตอนนั้นไม่ได้พูดอะไรเลย ทุกครั้งงานมันก็มืดๆ อยู่แล้ว ผมก็มองอะไรไม่ค่อยเห็น ก็แบบเกิดอะไรขึ้นๆ
นักข่าว: ที่ทิ้งกีตาร์นี่คือเป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย
ทอย: ใช่ครับ
นักข่าว: สติยังโอเค ควบคุมอารมณ์ได้
ทอย: ครับ
นักข่าว: แฟนๆ บอกว่าตกใจ เพราะกีตาร์ตัวนั้นเป็นกีตาร์ที่หนูรักมาก แล้วทำไมถึงตัดสินใจแบบนั้น
ทอย: ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย คือผมไม่รู้จะเอายังไง ไม่รู้ต้องทำยังไงดี ถ้าสมมติเค้ามีมีดเราจะต้องทำไงดี ถ้าเค้ามีปืน ตอนนี้เราจะได้ยืนอยู่ตรงนี้ไหม
นักข่าว: เป็นเพราะกังวลความปลอดภัยของศิลปินใช่ไหม
ทอย: ไม่ใช่เพราะว่าเป็นศิลปิน ผมว่าเป็นทุกคน สมมติว่าผมเป็นเซลล์ขายรถ แล้ววันนึงผมคุยกับลูกค้าอยู่แล้วมีคนเดินมาล็อกคอ ผมว่ามันคือวัฒนธรรมที่เราควรเรียนรู้ มันไม่ใช่ความผิดนะ แต่ผมคิดว่าเราควรเรียนรู้
นักข่าว: แล้วเจ้าของร้านได้มาคุยอะไรไหม
ทอย: คุยกับผู้จัดการครับ ผมว่าเขามีสปิริตมาก เค้ารับผิดชอบลูกค้า คืนเงินทั้งหมด อันนี้คือเรื่องดี
นักข่าว: หลังจากลงเวทีแล้วมีอะไรต่อไหม
ทอย: ผมไปกินข้าวต้มกับมือกลองต่อ คือมันมีร้านข้าวต้มเปิดอยู่ ผมก็เลยชวนมือกลองไป
นอกจากนี้ทอยยังบอกอีกว่า จริงๆ เราควรรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรไปแทรกแซงการปฏิบัติงานของใคร ตนได้ขอออกค่ารถค่าอะไรเองเพื่อแสดงความรับผิดชอบที่เล่นไม่จบ
แล้วยังบอกอีกว่าไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องดราม่าใหญ่ขนาดนี้ คิดว่าตัวเองเป็นมืออาชีพในระดับหนึ่งแล้ว ก็เลยไปกินข้าวต้มดีกว่า และคิดว่ามันคือประสบการณ์หนึ่งเท่านั้น
ที่มา ห้องข่าวบันเทิง
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.