อย่างที่เราทราบกันไปก่อนหน้านี้แล้วว่าทางสหรัฐอเมริกา ได้ “ขึ้นบัญชีดำ” บริษัท Huawei ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของจีน อีกทั้งทาง Google เองก็ได้หยุดทำธุรกิจกับบริษัทดังกล่าว
อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: CEO บริษัท Huawei ยืนยัน “จะยังคงให้บริการอย่างเต็มที่” มีแผนรองรับไว้อยู่แล้ว
เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่า “เป็นสงครามด้านเทคโนโลยี” ที่ส่งผลกระทบออกไปเป็นวงกว้าง และกลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก
แน่นอนว่าการที่ประเทศอเมริกาตัดสินใจยุติการซื้อ-ขายกับบริษัทดังกล่าว นั่นจึงส่งผลทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกมองว่าการพัฒนา Huawei ต่อไปหลังจากนี้นั้นคงจะประสบความสำเร็จได้ยากยิ่ง
ลองคิดดูง่ายๆ ว่า สมาร์ทโฟน Huawei รุ่นใหม่ๆ หลังจากนี้จะไม่มีแอปยอดนิยมอย่าง Gmail, Google Maps หรือ Youtube ให้เราได้ใช้กัน เป็นอย่างนั้นแล้วจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกก็อาจจะลดลงไปไม่น้อยเลย
แม้ทาง ประธานบริหารสูงสุด (CEO) ของทาง Huawei จะออกมาบอกว่า “พวกเราได้เตรียมการสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้เอาไว้อยู่แล้ว” แต่นั่นก็อาจไม่พอที่จะสร้างความคาดหวังให้กับผู้ใช้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ผู้ใช้ทั่วโลกต่างเกิดความคิดที่จะเลิกใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อนี้ ทว่าในประเทศจีนนั้นกลับต่างออกไป เมื่อผู้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเลิกใช้สมาร์ทโฟนชื่อดังอย่าง iPhone และหันกลับมาใช้ Huawei เสียแทน?!
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นกันล่ะ??
เรื่องนี้เข้าใจได้ไม่ยากเลย นั่นก็เพราะว่า Apple เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน จึงไม่แปลกที่ชาวจีนจำนวนไม่น้อยจะมองว่าตอนนี้บริษัทดังกล่าวก็ไม่ต่างอะไรกับ “ศัตรูทางเทคโนโลยี” ของประเทศ
Wang Zhixin ผู้จัดการบริษัทผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ของจีน กล่าวว่า “เสียงเรียกร้องจากหัวใจ ทำให้ผมจำเป็นที่จะต้องหันมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของจีน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตสงครามเทคโนโลยี”
Wang คือคนหนึ่งที่เคยเป็นผู้ใช้ iPhone มาก่อน จนกระทั่งเขาตัดสินใจเลิกใช้ iPhone 7 ที่อยู่กับเขามานานหลายปี และหันมาใช้ Huawei P30 เสียแทน
เขาบอกว่า การตัดสินใจของเขานั้นไม่ได้มาจากแค่เหตุผลทางการเมือง แต่เขายังบอกอีกว่า “Huawei มีกิตติศัพท์ในเรื่องของคุณภาพที่ดีกว่า ในราคาที่ถูกกว่า ยิ่งรุ่น P30 นั้น มันทั้งเร็วกว่าและถ่ายรูปได้ดีกว่าอีกด้วย”
Sam Li ผู้ทำงานในบริษัทโทรคมนาคม ในกรุงปักกิ่ง เขาคืออีกคนที่เคยเป็นแฟนตัวยงของทางบริษัท Apple มาก่อน
แต่ล่าสุด Sam ก็เปลี่ยนมาใช้สินค้าภายในประเทศ โดยให้เหตุผลว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ถ้าหากว่าเราหยิบมือถือ iPhone ออกมาใช้ในปัจจุบัน ขณะที่เหล่าผู้บริหารระดับสูงต่างหันมาใช้ Huawei กันหมดแล้ว”
ส่งผลกระทบกับ Apple มากน้อยแค่ไหน??
บางคนอาจคิดว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple นั้นอาจไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นมากเท่าไหร่นัก แต่ว่าความจริงแล้วนี่อาจถือว่าเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมากกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้
นั่นก็เพราะว่าประเทศจีน ถือเป็น “ตลาดการค้าที่ใหญ่ที่สุดของ Apple” ซึ่งวัดจากไตรมาสล่าสุดของพวกเขา ยอดขายในประเทศจีนนั้นมีตัวเลขที่สูงถึง 17 เปอร์เซ็นต์ จากยอดขายทั้งหมด
ทว่าเมื่อเกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้น ก็คงไม่ต้องเดากันเลยว่ายอดขายของพวกเขาหลังจากนี้จะตกลงไปมากขนาดไหน
Goldman Sachs กลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติ คาดการณ์เอาไว้ว่า หากผลิตภัณฑ์ของ Apple ถูกแบนจากประเทศจีนไป นั่นจะส่งผลทำให้ผลกำไรของพวกเขาลดลงไปมากถึง 29 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
หลังจากนี้เราจึงอาจต้องรอดูกันต่อไปว่าทางสองฝ่ายจะคิดวิธีการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร และมือถือ Huawei หลังจากนี้จะออกมาเป็นอย่างไรกัน
ที่มา: observer , mybroadband , scmp
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.