เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2019 ศาลฎีกากลางในประเทศบราซิล ลงมติให้อาการเกลียดกลัวคนรักร่วมเพศ (Homophobia) และอาการเกลียดกลัวคนข้ามเพศ (Transphobia) มีความผิดฐานก่ออาชญากรรม
โดยจัดให้รับโทษเช่นเดียวกับการเหยียดสีผิว (Racism) ซึ่งทำให้ผู้ก่ออาชญากรรมสามารถถูกพิพากษาจำคุกได้สูงสุดนานถึง 5 ปี
ผู้พิพากษา 6 ใน 11 ท่านแห่งศาลฎีกาของรัฐบาลกลางได้ลงมติไปแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ว่า การกระทำที่ต่อต้าน LGBTQ ควรผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม แม้การลงมติของผู้พิพากษาอีก 5 ท่านจะถูกเลื่อนออกไปในเดือนมิถุนายน แต่ผลการตัดสินก็ไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เพราะผลลัพธ์นั้นอ้างอิงจากเสียงส่วนมาก
การเกลียดคนรักร่วมเพศ (Homophobia) เป็นเรื่องปกติในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นประเทศเคร่งทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และนิกายโปแตสแตนท์ โดยในปี 2018 มีรายงานว่า LGBTQ กว่า 420 คนถูกฆ่าตาย
แต่ก็เช่นเดียวกับหลายประเทศในปัจจุบัน ที่มีประชากรคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น มีความเป็นเสรีนิยมมากขึ้น และพวกเขาก็กล้าพอที่จะยืนหยัดเพื่อสิทธิของคนรักร่วมเพศ และคนข้ามเพศ
ประเทศบราซิลเองก็ออกกฎหมายเพื่อสิทธิของคนรักร่วมเพศ และคนข้ามเพศมาตลอดเช่นกัน เช่นในปี 2013 คนรักร่วมเพศสามารถสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ในปี 2015 อนุญาตให้คู่รักร่วมเพศสามารถรับเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมได้ ต่อมาในปี 2018 ได้ออกกฎหมายว่า รัฐบาลไม่สามารถบังคับคนข้ามเพศต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกต่อไป เพื่อระบุเพศใหม่ของตนเอง
ทั้งนี้ Jair Bolsonaro อดีตทหาร และประธานาธิบดีคนใหม่แห่งประเทศบราซิล กลับระบุตัวเองอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นคนที่เกลียดคนรักร่วมเพศ
เขาเคยกล่าวว่า “ยอมปล่อยให้ลูกชายตาย ดีกว่าเป็นคนรักเพศเดียวกัน”
อย่างไรก็ตาม Bruna Benevides ประธานกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (Niteroi Diversity group) ก็ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้เช่นกัน…
“การพิจารณากฎหมายข้อนี้นั้นเกิดในเวลาที่เหมาะสมมาก เพราะศาลฎีกาจะมีส่วนร่วมปกป้องและรับผิดชอบ LGBTQ ทุกคนให้ได้รับสิทธิตามที่กำหนด”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.