ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหา “การลักลอบขนยาเสพติดข้ามประเทศ” ที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของคนไทย หลังจากที่ทางการประเทศอินโดนีเซีย สามารถจับกุมตัวชายไทย 2 คนที่ “กลืนยาไอซ์” ลักลอบเข้าประเทศของพวกเขา
ภาพการแถลงข่าวในวันที่ 27 พ.ค. 2019
ในวันที่ 13 พ.ค. 2019 เจ้าหน้าที่ศุลกากรของอินโดฯ สามารถจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหา ณ ท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไร บนเกาะบาหลี
การจับกุมตัวในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เครื่องมือเอ็กซเรย์ตรวจพบสิ่งแปลกปลอมภายในท้องของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ลงถึงสนามบินตอนเวลาประมาณตีสอง
เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงนำตัวทั้ง 2 คนไปรับการตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลท้องถิ่น หลังจากเอ็กซเรย์ดูก็พบว่ามีของแปลกปลอมอยู่ในระบบย่อยอาหารของพวกเขาจริง
เมื่อพยายามนำสิ่งแปลกปลอมที่เห็นนั้นออกมาได้สำเร็จก็พบว่าเป็น “ถุงบรรจุยาไอซ์” ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 คนจะกลืนลงท้องไป
ภายหลังจากการตรวจสอบทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้คือ นายประกอบ สีทาแสง วัย 29 ปี และ นายอดิศร พลมาต วัย 20 ปี สัญชาติไทยทั้งคู่
พบถุงยาไอซ์อยู่ในตัวของ นายประกอบ จำนวน 49 ถุง รวมแล้วหนัก 482.46 กรัม ส่วน นายอดิศร นั้นพบทั้งสิ้น 51 ถุง รวมแล้ว 507.02 กรัม
ยาไอซ์ 1 กรัมนั้น ในประเทศอินโดฯ มันมีมูลค่าสูงถึงราวๆ 1.5 ล้านรูเปียห์ (ราวๆ 3,314 บาท) เพราะฉะนั้นหากรวมจำนวนทั้งหมดจากทั้ง 2 คนแล้วจะอยู่ที่ 989.46 กรัม มีมูลค่าเท่ากับ 1,484 ล้านรูเปียห์ (ราวๆ 3.3 ล้านบาท)
สำหรับการลักลอบขนยาเข้าประเทศนั้นถือว่าเป็นคดีร้ายแรงอย่างมากในอินโดฯ ซึ่งอาจทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนนั้นได้รับโทษสูงสุดคือ “ประหารชีวิต” รองลงมาคืออาจต้องติดคุกตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม คดีความนั้นยังคงอยู่ในช่วงการสืบสวนเพิ่มเติมของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ และขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลต่อไป
ที่มา: viva , liputan6 , อริสา เที่ยงถิ่น
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.