Uniqlo หรือ ยูนิโคล่ เป็นแบรนด์เสื้อผ้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีประวัติยาวนานมากว่า 70 ปีแล้ว ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมสานความญี่ปุ่นเข้ากับเสื้อผ้า ทำให้ขณะนี้ทางแบรนด์ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
หากจะเล่าถึงประวัติของ Uniqlo นั้น คงต้องย้อนกลับไปในปี 1949 ที่เมืองอูเบะ จังหวัดยามากูชิ ประเทศญี่ปุ่น พ่อของคุณ Tadashi Yanai เป็นช่างตัดเสื้อสูท และได้เปิดร้าน Ogori Shōji ขึ้น
หลังจากเรียบจบ Tadashi ก็ได้เข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัว เขาได้นำประสบการณ์มาเปลี่ยนแปลงร้าน ไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ จนเปลี่ยนแนวจากชุดสูทเป็นแบบ Life Wear หรือชุดลำลองนั่นเอง
Tadashi Yanai ผู้สร้าง Uniqlo
จนในปี 1984 ก็เกิดร้านเสื้อผ้าชื่อว่า Unique Clothing Warehouse ขึ้น ภายใต้บริษัท Ogori Shoji ที่จังหวัดฮิโรชิม่า
ร้านเสื้อผ้าได้รับความนิยมอย่างมาก และในที่สุดชื่อร้านก็ถูกเปลี่ยนเป็น Uniqlo ซึ่งเป็นการรวมคำของคำว่า Unique (ความพิเศษ) กับ Clothing (เสื้อผ้า) นั่นเอง
ต่อมาในปี 1991 ก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Fast Retailing ก่อนจะเปิดตัวร้านเสื้อผ้า Uniqlo แห่งแรกอย่างเป็นทางการที่กรุงโตเกียว ในปี 1998
Unique Clothing Warehouse ที่จังหวัดฮิโรชิม่า (1984)
ปี 2001 ร้านมียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น พร้อมๆ กับมีร้านค้าปลีกกว่า 500 แห่งทั่วญี่ปุ่น ก่อนจะกระจายไปทั่วเอเชีย และทั่วโลกในที่สุด
อย่างไรก็ตามในปี 2002 Uniqlo เองก็เผชิญกับปัญหาการขยายตัวเร็วไป จากการเริ่มเปิดสาขาในประเทศอังกฤษกว่า 21 สาขา จนต้องแก้ปัญหาด้วยการปิดสาขาที่ประเทศอังกฤษถึง 6 สาขาเพราะยอดขายลดลง
แต่พวกเขาก็เรียนรู้จากความผิดพลาด หาจุดเด่นของแบรนด์ จนปัจจุบันมีร้านค้ามากกว่า 800 แห่งในทุกทวีปทั่วโลก และเฉพาะในประเทศไทยก็มีมากถึง 50 สาขาเข้าไปแล้ว
ด้วยสโลแกนที่ว่า “made for all” ทำให้ Uniqlo เป็นเสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ มีคุณภาพดี เหมาะสมกับราคา สวมใส่ได้ทุกโอกาส
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่ง #เหมียวเมษา เชื่อว่าในอนาคต Uniqlo ก็จะไม่หยุดพัฒนาเพื่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน
ที่มา: fastretailing, uniqlo, businessinsider
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.