‘เค้กไข่ไต้หวัน’ หรือ ‘Taiwanese Castella Cake’ เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมอบ เนื้อเนียนนุ่ม ฟูเด้กดึ๋ง หอมอร่อย ยิ่งถ้าได้ทานตอนอบเสร็จใหม่ๆ จากเตา ยิ่งอร่อยเกินคำบรรยาย เรียกได้ว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
เพื่อนๆ คนในที่อยากลองทำเมนูนี้ไว้ทานเองดูบ้าง เรามีสูตรจากคุณ ป้ามารายห์ มาฝาก ใช้ส่วนผสมไม่เยอะ ขั้นตอนการทำไม่ยากมาก รับรองว่าอร่อยถูกใจไม่แพ้ร้านดังแน่นอน
ส่วนผสมพิมพ์ขนาด กว้างx ยาวx สูง 7 x 11 x 2 นิ้ว
ส่วนผสมไข่แดง
1. ไข่แดงเบอร์ 2 7 ฟอง
2. แป้งเค้ก 150 กรัม
3. น้ำมันพืช 100 กรัม
4. นมข้นจืด 145 กรัม
5. กลิ่นวานิลา 2 ช.ช.
6.เกลือป่น 1/4 ช.ช.
ส่วนผสมไข่ขาว
1. ไข่ขาวเบอร์ 2 7 ฟอง
2. น้ำตาลทราย 100-120 กรัม(สามารถเพิ่มลดน้ำตาลได้ค่ะ)
3. ครีมออฟทาร์ทาร์(หรือน้ำมะนาว) 1 ช.ช.
4. แป้งข้าวโพด 1 ช.ช.
ขั้นตอนการทำ
1. ขั้นตอนแรกเราจะมาเตรียมวัตถุดิบกันก่อนนะคะ แยกไข่แดง ไข่ขาว หลังจากนั้นร่อนแป้ง+เกลือป่น ถ้าอยากได้เค้กที่เนื้อละเอียดก็ร่อนสัก 2 รอบ
การร่อนแป้งจะทำให้กรองเศษฝุ่น และระหว่างที่ร่อนแป้ง อากาศจะเข้าแทรกระหว่างเนื้อแป้งทำให้แป้งฟูและเบาขึ้นไปอีกค่ะ จากนั้นก็ตวงส่วนผสมที่เป็นของเหลว คือนมข้นจืด น้ำมันพืช น้ำตาลทราย และแยกไข่เอาไว้ค่ะ
2. เทน้ำมันพืชใส่หม้อตั้งไฟจนน้ำมันร้อน เสร็จแล้วดับเตา(หรือนำน้ำมันพืชเข้าไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที) นำแป้งเค้กใส่ลงไปผสมกับน้ำมัน
ขั้นตอนนี้ทำให้เค้กมีความนุ่มและเบาโดยที่ไม่ต้องพึ่งสารเสริมใดๆ ไขมันจะเคลือบแป้งไว้ ไม่ให้แป้งสัมผัสกับน้ำ เพราะเวลาที่แป้งสัมผัสกับน้ำหรือของเหลวจะทำให้เกิดกลูเต็นค่ะ กลูเต็นจะมีความเหนียว ถ้าตะล่อมแป้งกับน้ำนานๆจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้กเหนียวได้ค่ะ
3. ใช้ไม้พายคนให้คลายร้อนลงบ้างหลังจากนั้นใส่นมข้นจืด เพื่อเพิ่มความหอมนุ่มและรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น หลังจากนั้นคนหรือตะล่อมให้เข้ากัน
4. ใส่ไข่แดงลงไปตามเพิ่มความหอมด้วยกลิ่นวานิลาตะล่อมให้เข้ากันและพักไว้
5. ตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบ หลังจากนั้นใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ (ครีมออฟทาร์ทาร์จะช่วยทำให้ไข่ตีขึ้นฟูง่ายและทำให้ฟองอากาศที่ตีอัดเข้าไปมีความอยู่ตัวมากขึ้น ไม่ยุบตัวง่าย) ตีพอเข้ากัน
ตามด้วยแป้งข้าวโพด และทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป (น้ำตาลทรายแบ่งใส่สัก 3 รอบค่ะ ถ้าใส่ไปทีเดียวฟองอากาศอาจจะยุบตัวได้ และน้ำตาลก็จะละลายช้าด้วยค่ะ) ตีจนตั้งยอด
6. ตักเมอแรงค์หรือไข่ขาวมาบางส่วนใส่ชามผสมไข่แดง (ถ้าใส่ไปทีเดียวหมดจะผสมเข้ากันยากกว่า และทำให้เสียฟองอากาศเยอะ เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้กไม่ขึ้นฟู) ตะล่อมเบาจนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน
7. เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้(พิมพ์รองด้วยกระดาษไข อย่าลืมทาไขมันหรือเนยบนถาดด้วยนะคะก่อนเอากระดาษไขรอง) เคาะพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศสัก 1-2 ครั้ง ถ้ายังมีฟองอยู่ก็เอาไม้จิ้มฟันเจาะฟองออก เค้กอบมาหน้าจะได้สวยๆไม่มีรูพรุนค่ะ
8. นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 150-160 °C บนถาดน้ำร้อน เป็นเวลา 35-40 นาที แล้วแต่เตาแต่ละบ้านด้วยนะคะ บางเตาอาจจะอบนานถึง 50 นาที เลยก็ได้ค่ะ (การอบบนถาดน้ำร้อนจะทำให้เค้กมีความชุ่มชื้นขึ้นค่ะ) เปิดไฟบนล่าง ปิดพัดลม
หลังจากนั้นอบไล่ความชื้นเอาถาดรองน้ำร้อนออก อบต่อด้วยอุณหภูมิ 150-160 °C เป็นเวลา 8-10 นาที เปิดไฟบนล่าง ปิดพัดลม
* เช็คความสุกโดยเอาไม้ปลายแหลมจิ้มลงไป ถ้าไม่มีเศษเค้กแฉะๆติดออกมา แสดงว่าเค้กสุกดีแล้วค่ะ หรือ ถ้าไม่สะดวกรองด้วยถาดน้ำ ก็สามารถอบแบบธรรมดา ด้วยอุณหภูมิ 150-160 °C เป็นเวลา 30-35 นาที ค่ะ )
9. พออบเสร็จพักให้อุ่นลงประมาณ 10 นาที แล้วค่อยเอาเค้กออกจากพิมพ์ค่ะ
10. ลอกกระดาษไขออก
11. พลิกเค้กอีกด้านขึ้นมา และตัดขนาดตามชอบใจค่ะ
เป็นอีกหนึ่งเมนูของหวานแสนอร่อยที่ทานได้ไม่มีเบื่อ จะทานเปล่าก็ได้ หรือทานคู่กับกาแฟตอนเช้า ก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ
ที่มา: ป้ามารายห์
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.