รู้จักกับ 5 ยอดเด็กสุดเจ๋ง กับ ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ที่อาจเปลี่ยนโลกได้ เด็กแต่เด็ดนะขอบอก

‘ถึงตัวจะเป็นเด็ก แต่สมองเขาเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของเขาก็คือ… เด็กเหล่านี้แหละครับ!!’

 

สำหรับบางคนแล้วแม้จะเพิ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกไม่กี่ปี แต่ว่าความคิดความอ่านของพวกเขากลับไปไกลเกินกว่าที่เราจะคาดถึง จนถึงขั้นบางคนได้รับการยอมรับและเสียงชื่นชมจากทั่วทั้งโลกมาแล้ว

ดังนั้นในบทความนี้ เราไปรู้จักกับเด็กเจ๋งๆ จากทั่วทั้งโลกที่ #เหมียวจิวยี่ อยากจะแนะนำเพื่อนๆ ให้ได้รู้จักกันดีกว่า แล้วจะรู้ว่าความคิดของพวกเขาไม่ใช่เด็กอย่างที่เราคิด แถมบางทียังล้ำจนตามไม่ทันเลยแหละ!!

 

1. เกรียตา ทุนแบร์ย (Greta Thunberg) นักรณรงค์สิ่งแวดล้อม ผู้ปลุกให้เยาวชนตื่นตัวเรื่องโลกร้อน

 

เกรียตา ทุนแบร์ยคือวัยรุ่นวัย 16 ปีจากประเทศสวีเดนที่ตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน โดยเธอได้สร้างปรากฏการณ์ปลุกเยาวชนให้ตื่นตัวกับเรื่องนี้ ด้วยการหยุดเรียนไปนั่งประท้วงเงียบที่หน้ารัฐสภาในกรุงสต็อกโฮล์ม

ในเวลาต่อมาเธอได้รับโอกาสได้พูดในเวทีประชุมของสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกครั้งที่ 24 หรือ COP24 ที่โปแลนด์

แล้วเธอก็ทำให้หลายคนถึงกับอ้าปากค้าง ด้วยความคิด ความกล้าหาญของวัยรุ่นคนหนึ่งที่กล้าพูดอย่างฉะฉานในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยประโยคเด็กที่ทั้งโลกต้องอึ้งก็คือ

“พวกคุณไม่โตพอที่จะพูดความจริง แม้แต่เรื่องที่ว่าคุณทิ้งภาระไว้ให้เด็กอย่างเรา” ซึ่งก็ทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้

 

2. เด็กชายเหมวิช วาฤทธิ์ หรือน้องฮับ เด็กไทยที่เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ‘Google Science Fair’

ภาพจาก Workpointnews

 

เด็กชั้นมัธยมปีที่ 1 จากโรงเรียนวารีเชียงใหม่อินเตอร์เนชั่นแนล คือคนที่สามารถผ่านเข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ‘Google Science Fair’ ด้วยผลงานสร้างโปรเเกรมเเละประดิษฐ์อุปกรณ์ช่วยทางการได้ยินเเละฝึกพูด ให้กับผู้พิการทางการได้ยิน

น้องฮับเล่าว่าในปัจจุบันมีคนกว่า 422 ล้านคนได้รับผลกระทบจากความบกพร่องทางการได้ยิน

หลังรู้ข่าวจากคุณครูที่โรงเรียนว่ามีโครงการ Google Science Fair เขาจึงเข้าร่วมโครงการ เพราะอยากช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ

โดยก่อนหน้านี้น้องฮับว่าเขาเคยเล่นกีตาร์แล้วไม่ได้ต่อกับแอมป์ทำให้ได้ยินเสียงกีตาร์เบา แต่เมื่อเอาคางไปแตะที่ตัวกีตาร์เพื่อจะฟังเสียง ก็เสียงดังขึ้นชัดเจนขึ้น นี่จึงเป็นที่มาของไอเดียนี้และนำไปสู่การต่อยอดจนถึงการเข้ารอบงานแฟร์ดังกล่าว

ส่วนการตัดสินของโครงการ Google Science Fair จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ ยังไงก็ฝากเอาใจช่วยด้วยนะ!!

 

3. Moziah Bridges เด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าด้วยวัย 11 ปี

 

เพราะเครื่องแต่งกายเป็นสิ่งที่เราต้องใช้ในทุกๆ วัน ทำให้ Moziah Bridges กลายเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าตั้งแต่มีอายุ 11 ขวบ (ปัจจุบันอายุ 17 ปี)

จุดเริ่มต้นไอเดียสุดเฉียบของเขาจริงๆ แล้วเกิดขึ้นในวัย 9 ขวบ ซึ่งขณะนั้นหนุ่ม Moziah ชื่นชอบการใส่ชุดสูทของคุณพ่อและคุณตาเอามากๆ จึงได้ลอกเลียนใส่ชุดสูทตาม

แต่ด้วยความที่เป็นเด็กเขาจึงคิดหาอะไรมาตกแต่งเพื่อให้ไม่ทางการเกินไป และสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แล้วสิ่งที่ตอบโจทย์แก่ความต้องการของเขาก็คือ ‘หูกระต่าย’ แต่ว่าหูกระต่ายที่มีในท้องตลาดก็ไม่ถูกจริตของเขานัก

เขาเลยคิดสร้างหูกระต่ายในสไตล์ของตัวเองขึ้นมา ด้วยความช่วยเหลือของคุณยายผู้เป็นช่างตัดเย็บ เธอสอนให้เขาใช้จักรสร้างหูกระต่ายแบบที่ตัวเองชอบ และเขาก็ออกแบบมันเรื่อยๆ จนมีจำนวนมากยิ่งขึ้น

และในที่สุดในวัย 11 ขวบเขาก็เป็นเจ้าของแบรนด์ ‘Mo’s Bows’ แบรนด์หูกระต่ายระดับขึ้นห้างที่มีดาราชายคนดังเป็นลูกค้าประจำมากมาย

 

4. Ryan Hickman เจ้าหนูรีไซเคิลบอย

 

ในวัย 3 ขวบครึ่ง เจ้าหนู Ryan ได้ติดสอยห้อยตามคุณพ่อไปที่ศูนย์รีไซเคิลในท้องถิ่นในออเรนจ์เคาน์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย แล้วหลังจากนั้นไอเดียการรีไซเคิลของเขาก็เริ่มขึ้น

“นี่คือธุรกิจใหม่ของผม ผมจะเก็บกระป๋องและขวดน้ำของทุกๆ คนในหมู่บ้าน” 

ด้วยความช่วยเหลือของชุมชนที่เห็นถึงความตั้งใจของหนูน้อย รวมถึงเห็นดีด้วยในเรื่องการรีไซเคิล ในที่สุด Ryan ในวัย 7 ขวบก็เป็น CEO ผู้จัดการและลูกจ้าง (ครบจบในคนเดียว) ของบริษัท Ryan’s Recycling Company

ซึ่งเขามีลูกค้าประจำกว่า 50 คน และสามารถรีไซเคิลกระป๋องและขวดน้ำไปได้แล้วกว่า 300,000 ชิ้น

นอกจากนี้ยังให้การช่วยเหลือศูนย์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในมหาสมุทรแปซิฟิก ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลเป็นจำนวนเงินมากกว่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 155,000 บาท) โดยวิธีการขายเสื้อยืดในแบรนด์บริษัท

 

5. Gitanjali Rao นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ชั้นนำของอเมริกา

 

Gitanjali Rao เด็กสาวเกรด 7 จากรัฐโคโลราโด ได้รับรางวัล 2017 Discovery Education 3M Young Scientist Challenge และได้รับการขนานนามว่าเป็น “นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ชั้นนำของอเมริกา”

ส่วนโครงการของเธอที่ทำให้ชนะเลิศก็คือ อุปกรณ์พกพาราคาถูกที่ทดสอบการปนเปื้อนสารตะกั่วในน้ำดื่ม ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้ทันที โดยได้รับเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 779,000 บาท)

 

เห็นอย่างนี้จิ๋วแต่แจ๋วกันทั้งนั้น!!

 

เรียบเรียงโดย: #เหมียวจิวยี่ 

Comments

Leave a Reply