คงไม่มีใครอยากสูญเสีย ‘สิ่งที่เรารักไป’ บางคนอาจรักเงินทอง บางคนอาจรักข้าวของที่สะสมเก็บมาทั้งชีวิต เหมือนดั่งบทเพลงหนึ่งของน้า จ๊อบ บรรจบ ที่กล่าวไว้ว่า
“เอาข้าวของเงินทองฉันจะไม่ว่า แต่อย่าเอาเสื้อลายกัญชาของฉันไป”
เพลง ดูเธอทำ – จ๊อบ บรรจบ
เนื้อเพลงนั้นอาจฟังดูน่าขบขัน แต่กลับกันหากเรามองในความเป็นจริง ถ้าเสื้อตัวนั้นคือสิ่งที่เรารักและหวงแหนเป็นอย่างมาก เราก็คงยอมแลกมันกับทุกสิ่งเพื่อให้ได้มันคืนมา…
เช่นเดียวกันกับหญิงสาวชาวเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ที่เจอ ‘โจรขึ้นบ้าน’ เอาข้าวของไปมากมาย แต่สิ่งที่เธออยากได้คืนมากที่สุดนั้นกลับไม่ใช่เงินทอง หรือสิ่งของราคาแพง แต่กลับเป็น ‘เมโมรี่การ์ด’ แค่ชิ้นเดียว
‘เมโมรี่การ์ด’ ชิ้นสำคัญที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาแทนได้
บางคนอาจคิดว่า “เธอบ้าหรือเปล่า” เพราะพอฟังดูแล้ว กับแค่เมโมรี่การ์ดชิ้นเดียวมันไม่น่ามีความสำคัญขนาดนั้นได้…
มันก็ถูกอย่างที่พวกเราเข้าใจ เพราะหากพูดจริงๆ ตัวเมโมรี่การ์ดนั้นไม่ได้มีความสำคัญกับเธอสักเท่าไหร่หรอก แต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดจริงๆ คือ ‘ภาพถ่าย’ ที่อยู่ในนั้น
‘ภาพถ่ายแห่งความทรงจำ’
เธอเล่าว่าก่อนหน้านี้ เธอเลี้ยงหมาตัวหนึ่งชื่อว่า Shelby มันคือเพื่อนรักที่เพิ่งจากไปได้ไม่นานด้วยโรคมะเร็ง จนกระทั่งมีโจรบุกเข้ามาขโมยของในบ้านเธอ
สิ่งที่เธอได้ไปคือเงินจำนวนหลายพันดอลลาร์ฯ อุปกรณ์และกล้องถ่ายรูป ซึ่งนั่นรวมไปถึง ‘เมโมรี่การ์ด’ ของเธอ
ทั้งหมดที่ว่ามานั้นรวมๆ แล้วมีมูลค่าอาจนับเป็นหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท แต่สิ่งที่เธอต้องการคืนจริงๆ คือแค่เมโมรี่การ์ดชิ้นเดียว
เหตุผลที่เธอต้องการสิ่งนั้นคืนมากจริงๆ ก็เพราะว่าข้างในนั้นมี ‘ภาพถ่ายวันสุดท้ายของ Shelby’ อยู่นั่นเอง และเพื่อนๆ ก็คงเข้าใจว่าสิ่งนั้นมันไม่อาจหาได้จากที่ไหนอีกแล้ว
‘ฉันขอคืนเถอะนะ ได้โปรด’
หลังจากที่หัวขโมยขึ้นบ้านเธอแล้ว หญิงสาวคนดังกล่าวก็ได้นำป้ายประกาศไปติดไว้ตามเสาไฟฟ้ารอบๆ พื้นที่ กล่าวว่า…
“ถึงคนที่เข้ามาในบ้านแล้วขโมยของของฉันไป คุณเอาเงิน เอากล้อง DSLR และข้าวของอื่นๆ ไปเลย แต่ถ้าคุณมี ‘เมโมรี่การ์ด’ จากกล้องอยู่ ฉันขอเธอนะ ในนั้นมีภาพสุนัขของฉันในวันสุดท้ายของมันอยู่”
“ฉันไม่มสามารถหาอะไรมาแทนที่ภาพเหล่านั้นได้เลย ช่วยโยนคืนมาตรงระเบียง หรือตรงตู้จดหมาย ไม่อย่างนั้นก็ช่วยส่งกลับมาตรงที่อยู่นี้ทีเถอะนะ”
“ฉันขอร้อง น้องหมาของฉันเพิ่งจากโลกนี้ไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง ฉันไม่สามารถเสียภาพเหล่านั้นไปได้เลย”
โปสเตอร์ของเธอที่ติดไปทั่วเสาไฟฟ้าในละแวกนั้น
เรื่องราวถูกแชร์และพูดถึงต่อๆ กันไป
หลังจากที่มีคนถ่ายภาพป้ายประกาศของเธอโพสต์ลงโซเชียล ภาพนี้ก็ได้ถูกแชร์ต่อๆ กันไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว หลายๆ คนหวังว่าเธอจะได้รับของสำคัญชิ้นนั้นคืนจากหัวขโมย
แต่ทว่า แม้เรื่องราวดังกล่าวจะผ่านมานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว มันก็ยังคงไม่มีวี่แววของข่าวดี…
โพสต์จากอินสตาแกรม apiecalypsejen ของเธอ
หญิงสาวเจ้าของเรื่องได้โพสต์ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ในวันเกิดของตัวเอง ด้วยความหวังที่ว่าของขวัญที่เธอจะได้รับในปีนี้ มันอาจเป็นเมโมรี่การ์ดอันแสนสำคัญชิ้นนั้น แต่ความเป็นจริงกลับยังคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
ยังไงก็หวังว่าหลังจากนี้อีกไม่นาน เธอจะได้รับของสำคัญชิ้นนั้นกลับมา
#เหมียวตะปู อาจช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.