ทฤษฎี “แวนโก๊ะถูกฆ่า” ถูกนำมาถกเถียงอีกครั้ง หลังปืนที่เขาใช้ยิงตัวตายถูกนำออกประมูล

ในวันพุธที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ที่จะถึงนี้ ในประเทศฝรั่งเศสจะมีจัดการประมูลปืนโบราณกระบอกหนึ่ง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นของที่จิตรกรชื่อดังของโลกอย่าง “วินเซนต์ แวนโก๊ะ” ใช้งานในการปลิดชีพตัวเองเมื่อปี 1890

 

 

โดยเจ้าปืนกระบอกที่เห็นนี้ ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในปี 1960 ราวๆ 70 ปีหลังจากวันที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ของหมู่บ้านฟาร์ม “Auvers-sur-Oise” ประเทศฝรั่งเศส สถานที่ซึ่งแวนโก๊ะจากโลกนี้ไป

ปืนที่พบนั้นเป็นปืนลูกโม่ที่ใช้กระสุนขนาด 7 มิลลิเมตร ที่ผลิตโดย Lefaucheux และนับว่าเป็นปืนพกขนาดเล็กที่ค่อนข้างนิยมในสมัยนั้น แม้ว่าขนาดกระสุนปืนจะค่อนข้างเล็กอยู่ก็ตาม

 

 

น่าเสียดายที่ความนิยมของปืนกระบอกนี้นั้นทำให้นักโบราณคดีไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าปืนดังกล่าวเป็นของที่แวนโก๊ะเคยใช้มาก่อน โดยในปัจจุบันนักโบราณคดีมีเพียงสถานที่พบปืน ขนาดของปืนที่ตรงกับกระสุนจากศพของแวนโก๊ะ และการที่ปืนถูกพบในสภาพพร้อมยิงเท่านั้น ที่พอจะชี้ว่าปืนกระบอกดังกล่าวอาจเป็นของที่แวนโก๊ะเคยใช้จริงๆ

ดังนั้นการออกประมูลของปืนกระบอกนี้ จึงกลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนาหูในหมู่นักสะสมของเก่าไป

 

 

แต่เรื่องราวความน่าเชื่อถือของปืนกระบอกนี้เอง ก็ไม่ใช่เรื่องราวเพียงเรื่องเดียวซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในการประมูลที่กำลังจะเกิดขึ้นเสียด้วย นั่นเพราะการที่วัตถุโบราณชิ้นนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ก็ทำให้มีคนไม่น้อยเลยที่นำทฤษฎีเกี่ยวกับความตายของแวนโก๊ะกลับมาพูดคุยถกเถียงกันอีกครั้ง

และในบรรดาทฤษฎีที่มีการกล่าวถึงกันมากที่สุด ก็คงไม่พ้นทฤษฎีที่ว่าแท้จริงแล้วแวนโก๊ะไม่ได้ยิงตัวตาย แต่ถูกยิงโดยใครบางคน

 

 

โดยทฤษฎีที่กล่าวมานี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากนักเขียนชีวประวัติ Gregory White Smith และ Steven Naifeh ในปี 2011 ซึ่งมีเนื้อความคร่าวๆ ว่า แท้จริงแล้วแวนโก๊ะถูกยิงโดยเด็กอายุ 16 ปี ซึ่งชอบร่วมมือกับพี่ชายในการรังแกจิตรกรหนุ่ม

นักเขียนทั้งสองคนเชื่อว่าการที่แวนโก๊ะถูกยิงนั้นน่าจะมาจากความไม่ต้องใจของตัวเด็กชายซึ่งรังแกแวนโก๊ะจนเกินกว่าเหตุ ดังนั้นผู้เป็นพี่ชายจึงตัดสินใจกุเรื่องว่าแวนโก๊ะยิงตัวตายเพื่อปกป้องน้องชายของเขา

 

Wheatfield with Crows ภาพวาดของแวนโก๊ะในปี 1890

 

นับว่าเป็นทฤษฎีที่ค่อนข้างน่าสนใจชิ้นหนึ่งก็จริงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นทฤษฎีที่มีคนออกมาคัดค้านอยู่ค่อนข้างมาก โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญของคนเหล่านั้นคือ แวนโก๊ะนั้นไม่ได้เสียชีวิตในทันทีหลังจากที่โดนยิง (ว่ากันว่าเป็นเพราะกระสุน 7 มิลลิเมตรที่ใช้ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีพลังทำลายน้อยเกินไป)

ดังนั้นหากเขาโดนยิงจริงๆ เจ้าตัวก็น่าจะยังพอบอกความจริงกับคนที่มาพบได้ โดยเฉพาะเมื่อที่เจ้าตัวสามารถทิ้งคำพูดก่อนตายว่า “ความเศร้าจะคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์” แล้วด้วย

 

 

แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าเรื่องราวของปืนกระบอกนี้จะมีความเป็นมาอย่างไร สุดท้ายแล้วเราก็มีคนจำนวนมากที่ใช้ความสนใจในงานประมูลครั้งนี้อยู่ดี ดังนั้นต่อให้คิดถึงความเสื่อมโทรมลงไปมากตามกาลเวลาของปืนก็ตาม ทางโรงประมูลก็ยังคงคาดว่าปืนที่พบจะขายได้ราคามากกว่า 1.56 ล้านบาทอยู่ดี

 

ที่มา livescience, nationmultimedia และ foxnews

Comments

Leave a Reply