“เราจะทำให้นาซีแห้งตาย” ชาวเมืองเยอรมนีเหมาเบียร์ทั้งเมือง ต่อต้านคอนเสิร์ตนีโอนาซี

เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าปัญหาของกลุ่ม “นีโอนาซี” นั้นเป็นเรื่องที่สร้างความปวดหัวให้แก่ชาวยุโรปกันมากขนาดไหน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่มีกลุ่มคนเหล่านี้จัดกิจกรรมอะไรขึ้น เราก็จะสามารถเห็นคนหลายๆ กลุ่มออกมาต่อต้านด้วยวิธีการต่างๆ กันออกไป

แต่เชื่อว่าในบรรดาวิธีการต่อต้านนีโอนาซีที่เราเคยมีโอกาสได้เห็นในช่วงเวลาที่ผ่านๆ มานั้นคงไม่มีอันไหนที่สร้างสรรค์ได้เท่าความพยายามในการต่อต้านนีโอนาซีของเหล่าตำรวจและคนในพื้นที่ของเมืองออสทริทซ์ เมืองทางชายแดนด้านตะวันออกของประเทศเยอรมนีอีกแล้ว

 

เหล่าผู้คนที่สวมชุด “Division Guesten” มาร่วมเทศกาลดนตรีของนีโอนาซีเมื่อปี 2018

 

ทันทีที่พวกเขาทราบข่าวว่าทางนีโอนาซีจะจัดเทศกาลดนตรีร็อก ในวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ประชาชนและตำรวจกว่า 2,000 คนในเมือง ก็ออกมาร่วมมือร่วมใจกัน “แบน” แอลกอฮอล์ทั้งหมดในเมืองไม่ให้มีโอกาสได้ตกไปอยู่ในมือของทางนีโอนาซีได้เสียเลย

โดยในการแบนแอลกอฮอล์ครั้งนี้ ทางตำรวจในเมืองได้ทำการยึดเครื่องดื่มกว่า 4,400 ลิตรจากตัวงานตลอดช่วงเวลาที่มีการจัดคอนเสิร์ต ตามคำสั่งของศาล ในขณะที่ชาวเมืองเองก็ออกตระเวนซื้อเบียร์จากร้านต่างๆ อีกกว่า 200 ลัง เพื่อป้องกันไม่ให้นีโอนาซีมีโอกาสได้ซื้อเครื่องดื่มโดยสมบูรณ์

 

การออกยึดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเจ้าหน้าที่

 

คุณ Georg Salditt นักเคลื่อนไหวในท้องถิ่นบอกว่า พวกเขา (ชาวบ้าน) วางแผนการเหล่านี้มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว เนื่องจากที่ผ่านๆ มาชาวเมืองเคยถูกกลุ่มนีโอนาซีที่มึนเมาสร้างความเดือดร้อนให้อยู่หลายครั้ง

โดยพวกเขามีเป้าหมายที่จะ “ทำให้นาซีแห้งตาย” (ในเชิงสัญลักษณ์) และกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าการกระทำของพวกเขาเป็นการแสดงออกว่าเมืองนี้ไม่ต้อนรับนีโอนาซี

 

การออกกว้านซื้อเบียร์ของคนในพื้นที่

 

ทั้งนี้เองในท้ายที่สุดแล้วทางตำรวจก็ออกมาบอกว่างานดนตรีในครั้งนี้มีคนเข้ามาร่วมงานเพียงแค่ราวๆ 500-600 คนเท่านั้นซึ่งนับว่าน้อยกว่าปีที่แล้วที่ไม่มีการแบนแอลกอฮอล์แบบครึ่งต่อครึ่ง ในขณะที่ผู้ประท้วงต่อต้านการชุมนุมของนีโอนาซีนั้นปรากฏตัวออกมาถึง 2,000 คน

ดังนั้นแล้ว นี่จะบอกว่าการแบนแอลกอฮอล์ในครั้งนี้นับว่าเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของชาวเมืองออสทริทซ์เลยก็คงไม่ใช่เรื่องที่ผิดนัก และแน่นอนว่าการกระทำของพวกเขาเองก็ได้รับความชื่นชมจากผู้คนหลายๆ ฝั่งเลยทีเดียว

 

ที่มา bbc, cnn, thetakeout และ newsweek

Comments

Leave a Reply