10 ตำนานและเรื่องเล่าจากสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งจริงๆ แล้ว “มั่ว” มโนขึ้นมาล้วนๆ

ในบรรดาความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นมาบนโลก จะบอกว่าสงครามโลกครั้งที่สองนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ และก็คงไม่ใช่เรื่องที่ผิดนัก เพราะนี่คือสงครามที่ได้ชื่อว่ามีความยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสงครามที่แม้แต่เผลอๆ แม้แต่เด็กก็ยังรู้จักด้วยซ้ำ

ด้วยความที่สงครามโลกครั้งที่สองนั้นเป็นสงครามที่มีชื่อเสียงเอามากๆ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่สงครามครั้งนี้ จะมีตำนานและเรื่องเล่าผิดๆ ที่คนเราเชื่อว่าเป็นความจริงอยู่มากตามไปด้วย

ซึ่งความคิดผิดๆ เหล่านี้เอง ก็เป็นสิ่งที่พวกเราจะมาร่วมปรับแก้ให้มันถูกต้องในวันนี้ แต่จะมีอะไรบ้าง หรือเพื่อนๆ เคยได้ยินกันมาก่อนหรือไม่นั้น เราไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่าที่ข้างล่างนี้

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 1 : ฝรั่งเศสประกาศยอมแพ้ต่อนาซีโดยไม่มีการต่อสู้

จริงอยู่ว่านาซีจะใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์ในการทำให้ฝรั่งเศสยอมแพ้ในสงครามโลก แต่การรบครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นการรบที่ง่ายดาย เพราะตลอด 6 สัปดาห์นั้น เยอรมนีต้องเสียทหารไปกว่า 150,000 คน และรถถังอีกกว่า 800 คันเลยทีเดียว

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 2 : ฮิตเลอร์ปล่อยให้ทหารอังกฤษหนีได้ในยุทธการที่ดันเคิร์ก

ยุทธการที่ดันเคิร์กนับว่าเป็นการถอยหนีที่ราวกับเป็นปาฏิหาริย์แห่งช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายๆ คนจะคิดว่าที่ทหารเหล่านี้หนีออกมาจากเมืองได้จริงๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะฮิตเลอร์ปล่อยให้หนี (เพราะเป็นคนขาวเหมือนกัน)

อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้ว ทางเยอรมนีไม่ได้มีเหตุผลที่จะปล่อยให้ทหารบนฝั่งหนีโดยไม่ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย ส่วนที่การล่าถอยครั้งนี้สำเร็จ โดยมากแล้วจะมาจากการที่ฮิตเลอร์ตายใจในชัยชนะมากกว่า โดยเขาอนุญาตให้หน่วยยานหุ้มเกราะพักเติมอาวุธ และเชื่อว่าแค่การโจมตีทางอากาศจะสามารถทำลายทหารที่กำลังหนีได้นั่นเอง

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 3 : ทีมฟุตบอลของยูเครนถูกสังหารเพราะเอาชนะทีมนาซี

นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1942 และรู้จักกันในนาม “The Death Match” อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการแข่งครั้งนี้นั้นส่วนมากล้วนแต่มาจากบันทึกที่เกิดขึ้น “หลังสงคราม”

ดังนั้นจริงๆ แล้วเราจึงไม่มีหลักฐานเลยเวลาในวันนั้นนักฟุตบอลของยูเครนถูกสังหารเพราะเอาชนะทีมนาซีจริงๆ ไม่ใช่เหตุผลอื่นๆ

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 4 : ฮิตเลอร์ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคตั้งแบบฉิวเฉียด

นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1923 และบางคนถึงกับบอกว่าคะแนนในวันนั้นห่างกันแค่คะแนนเดียว ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วฮิตเลอร์ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคด้วยคะแนนมากถึง 553 ต่อ 1 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นคะแนนท่วมท้นเลยด้วยซ้ำ

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 5 : นายพลของญี่ปุ่นซ่อนทองที่ปล้นมาไว้ในฟิลิปปินส์

นายพลคนดังกล่าวมีชื่อว่ายามาชิตะ ซึ่งแม้ว่าจะมีตัวต้นอยู่จริงแต่กลับไม่เคยมีประวัติว่าเคยมีคำสั่งให้ฝังทองไว้ที่ไหนเลย ส่วนทองที่นักขุดสมบัติหลายๆ คนออกมาอ้างว่าได้มาจากถ้ำของยามาชิตะและเป็นข่าวถึงขั้นขึ้นศาลเอง สุดท้ายก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามาจากที่ไหนจริงๆ เช่นกัน

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 6 : ในตอนที่ฝรั่งเศสยอมแพ้ ฮิตเลอร์ดีใจมากจนออกมาเต้น และถูกจับภาพไว้ด้วย

ในตอนที่ฝรั่งเศสประกาศยอมแพ้ ฮิตเลอร์ซึ่งเคยเป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งแปลกใจมากจนเผลอก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามวิดีโอในวันนั้นได้ถูกฝ่ายสัมพันธมิตรนำไปตัดต่อเป็น วิดีโอฮิตเลอร์เต้นเพื่อใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อต่อไป

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 7 : การกินแครอทจะช่วยให้คุณมองเห็นได้ดีขึ้นในความมืด

นี่เป็นตำนานที่เกิดขึ้นจากกระทรวงสารสนเทศอังกฤษ เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจคนในประเทศเพื่อให้ประชาชนปลูกและบริโภคแครอทซึ่งมีราคาถูก แถมยังสามารถส่งไปเป็นเสบียงของนักบินได้

ส่วนเรื่องที่ว่าแครอทจะช่วยเรามองเห็นได้ดีขึ้นในความมืดจริงๆ ไหมนั้น ต้องบอกว่าหากขาดวิตามินเอที่มีอยู่ในแครอท คนเราอาจจะมีอาการตาบอดกลางคืน (Nyctalopia) น่าจะถูกกว่า

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 8 : โปแลนด์ใช้ทหารม้ารบกับรถถังเยอรมัน

ในสงครามโลกโปแลนด์มีการใช้งานทหารมาอยู่จริงๆ แต่ไม่ใช่กลับรถถังอย่างที่คิด แต่เป็นกับทหารราบในที่เปิดแทน แถมยังได้ผลเป็นอย่างดีเสียด้วย

ส่วนความเชื่อที่ว่าโปแลนด์ใช้ทหารม้ารบกับรถถังเยอรมันนั้น มาจากการที่ทหารเยอรมันให้รถหุ้มเกาะตอบโต้การโจมตีของทหารม้าในเวลาต่อมา ก่อนที่จะเอาศพของทหารม้าไปให้นักข่าวดูและบอกว่าทหารม้าโปแลนด์พุ่งเข้าหารถถังเพื่อเป็นโฆษณาชวนเชื่อ

 

ความคิดผิดๆ ข้อที่ 9 : แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ รู้ว่าญี่ปุ่นจะโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ แต่ก็ไม่ทำอะไรเพื่อเข้าร่วมสงคราม

นี่เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นเนื่องจากในตอนที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ถูกโจมตี เรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำของสหรัฐฯ ไม่อยู่ในอ่าว ดังนั้นหลายๆ คนจึงคิดว่านี่เป็นแผนการที่มีการเตรียมการไว้แล้ว

อย่างไรก็ตามในวันนั้นเรือรบที่เป็นกำลังรบสำคัญหลายลำเองก็ได้รับความเสียหากจากการโจมตีเช่นกัน ซึ่งหากมองว่านี่เป็นการเสียสละเพื่อเข้าร่วมสงครามแล้ว นี่นับว่าเป็นการเสียสละที่ไม่คุ้มสักเท่าไหร่ แถมในบรรดาเรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำที่ไม่อยู่ที่เกาะเอง ยังมีหนึ่งลำที่จริงๆ แล้วมีกำหนดการที่จะต้องไปประจำการที่เกาะด้วย

 

และความคิดผิดๆ ข้อที่ 10 : นาซีมีการเคลื่อนไหวต่อต้านหลังสงครามที่รุนแรงมากๆ ชื่อ “Werwolf”

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลังสงครามจบลงแต่ละประเทศจะต้องมีเคลื่อนไหวต่อต้านอยู่บ้าง แต่สำหรับเยอรมนีแล้ว การเคลื่อนไหวในจุดนี้ถือว่าค่อนข้างเล็ก

อย่างไรก็ตามด้วยความที่ชื่อเสีย(ง) ของนาซีในสงครามค่อนข้างเป็นที่หวาดกลัวและพูดถึงกันมาก ดังนั้นแม้แต่การกระทำของคนกลุ่มเล็กๆ ก็สามารถถูกมองว่าเป็นเรื่องน่ากลัวใหญ่โตไปได้ในสายตาของผู้คนที่เพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายแบบสงครามมา

 

ที่มา ranker