สำหรับแฟนๆที่ติดตามข่าวสารของงาน Comic-Con ที่จัดขึ้นที่เมืองซานดิเอโกมาโดยตลอดก็น่าจะพอทราบได้ว่า มีเหล่าผู้กำกับและนักแสดงพากันมาเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ๆที่งานกันแบบล้นหลามเลยทีเดียว และภายในงานยังมีผู้กำกับขวัญใจชาวเนิร์ดอย่าง Guillermo Del Toro มาเปิดบูทภาพยนตร์ Crimson Peak ภาพยนตร์ใหม่ของเขาที่กำลังจะเข้าฉายในเร็วๆนี้ด้วย
และแน่นอนว่าเมื่อมางานนี้แล้ว ก็ต้องถูกสื่อถามถึงข่าวคราวของหนังแอ็คชั่นแฟนตาซีอย่าง Hell Boy ที่หลังจากภาค 2 เข้าฉายไปเมื่อปี 2008 ก็เงียบหายไปเลย ล่าสุดได้มีนักข่าวไปสัมภาษณ์เจ้าตัวเกี่ยวกับแฟรนไชส์ชุดนี้ด้วย Del Toro จึงตอบว่า “เป็นความจริงที่ยากเย็นว่า หนังจะต้องใช้ทุนสร้างถึง 120 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 4..1 พันล้านบาท)”
ซึ่งเมื่อดูถึงจำนวนทุนสร้างในภาคสุดท้ายถึง 120 ล้านดอลลาร์ อาจเป็นทุนสร้างที่สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นแฟรนไชส์เลยก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านี้ในภาค 1 ใช้ไปเพียง 66 ล้านดอลลาร์ และในภาค 2 ใช้ไป 85 ล้านดอลลาร์ ซึ่งพอจะทำให้แฟนๆมองเห็นภาพลางๆว่า ในภาคนี้จะต้องยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยทำมาเลย
Del Toro ยังพูดต่ออีกว่า “มันคงจะดีมากที่จะได้ปิดไตรภาคให้กับแฟรนไชส์ชุดนี้ แต่ผมไม่เห็นใครเลย หรือแม้แต่อุตสาหกรรมไหนที่จะยื่นมือเข้ามาสนับสนุนพวกเราเลย ผมรู้ว่ามันจะจบยังไง และผมไม่รู้ว่าว่าตัวเองอยากจะเห็นมันไหม แต่ผมก็รักที่จะทำมันนะ”
แต่ใช่ว่าโปรเจ็ค Hellboy 3 จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย เพราะหาก Del Toro ทำตามเงื่อนไขที่ทาง Legendary วางเอาไว้ อาจทำให้โปรเจ็คนี้กลับมาเป็นที่น่าจับตาก็เป็นได้ หาก Del Toro ทำให้ Pacific Rim 2 ที่กำลังจะเริ่มถ่ายทำเร็วๆนี้ ทำเงินแบบถล่มทลายอีกครั้ง
และไม่ใช่เพียงแค่ Del Toro เท่านั้นที่อยากให้โปรเจ็คนี้เกิดขึ้น แต่ Ron Perlman ผู้รับบทเป็น Hellboy เองก็อยากกลับมารับบทพระเอกในหนังเรื่องนี้เมื่อโอกาสมาถึงเช่นกัน แฟนๆคงต้องเอาใจช่วยพวกเขากันแล้วล่ะ ว่าจะสามารถสร้างภาคต่อออกมาให้แฟนๆได้ชมหรือไม่
ที่มา empireonline , boxofficemojo
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.