ในชีวิตยุคดิจิตอล หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คืออินเทอร์เน็ต จากที่เมื่อก่อนเราใช้อินเทอร์เน็ตในรูปแบบสายเคเบิล ปัจจุบันนี้นิยมมาเป็นแบบไร้สายแล้ว และมักจะมีตัวปล่อยสัญญาณไว้ในบ้านหรือในห้องส่วนตัว
แต่ถึงแม้ว่าจะใช้เป็นตัวปล่อยสัญญาณส่วนตัวก็ตาม ก็มักจะเกิดปัญหาว่าสัญญาณอ่อน สัญญาณหาย หาไม่เจอ ทำให้เน็ตไม่แรงหรือไม่ก็ใช้ไม่ได้ พาลทำให้โทษผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแทน ทั้งที่สาเหตุอาจจะมาจากตำแหน่งการวางตัวปล่อยสัญญาณนั่นเอง
เพราะฉะนั้น อย่างแรกที่ควรจะทำก็คือการวางตำแหน่งตัวปล่อยสัญญาณให้อยู่ในที่โล่ง ไร้สิ่งบดบังใดๆ โดยเฉพาะกำแพงและจุดอับต่างๆ เพราะถ้าหากโดนบังปุ๊บ สัญญาณก็จะหายวับไปในทันที
อย่างที่สองคือการวางตำแหน่งตัวปล่อยสัญญาณให้สูงจากพื้น เพราะส่วนมากแล้วการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi นั้นถูกออกแบบมาให้ปล่อยคลื่นลงในแนวดิ่งลงพื้น ยิ่งวางติดพื้นก็ปล่อยคลื่นลงดินนั่นเอง
อย่างที่สามคืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ สามารถรบกวนสัญญาณ Wi-Fi ได้ อย่างเช่นทีวี คอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ที่มีมอเตอร์เป็นส่วนประกอบ เพราะฉะนั้นควรจัดตำแหน่งตัวปล่อยสัญญาณให้ห่างจากอุปกรณ์เหล่านี้
อย่างที่สี่คือการจัดตำแหน่งเสาสัญญาณให้ออกสองแนว ทั้งแนวตั้งและแนวนอน (สำหรับตัวปล่อยที่มีสองเสา) เพราะอุปกรณ์ต่างๆ มักจะมีตัวรับสัญญาณติดตั้งในแนวที่ต่างกัน อย่างคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจะมีตัวรับสัญญาณในแนวนอน แต่กับสมาร์ทโฟนทั้งหลายจะขึ้นอยู่กับลักษณะการถือ
และสุดท้ายก็คือการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อวัดระดับความแรงของสัญญาณ Wi-Fi ทั้งนี้ก็มีหลากหลายแอพฯ ให้เลือกใช้ หลังจากนั้นก็อยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรก็ตัวปล่อยสัญญาณ หรือจะเปลี่ยนสถานที่เล่นเน็ตภายในบ้านก็อยู่ที่ตัวคุณแล้วล่ะ
ที่มา : vox
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.