หากเราได้เคยสัมผัสหรือรับรู้ผ่านสื่อต่างๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาบ้าง จะสังเกตเห็นได้ว่าเด็กเล็กอายุเพียงแค่ 6-7 ขวบโดยประมาณ เดินไปไหนมาไหนคนเดียว ใช้บริการรถสาธารณะเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางนั่นก็คือโรงเรียนนั่นเอง เหมือนกับผู้ใหญ่ที่เดินทางไปทำงานในแต่ละวัน
ไม่เหมือนกับวัฒนธรรมในบ้านเราที่จะต้องมีพ่อแม่พาไปส่งโรงเรียนในทุกๆ เช้า แตกต่างกับนักเรียนญี่ปุ่นในวัยประถมศึกษาที่จะเห็นได้ว่ามาด้วยตัวคนเดียว และเลือกที่จะเดินเท้าไปขึ้นรถไฟเพื่อไปโรงเรียน แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?
คุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะฝึกให้ลูกๆ ของตนรู้จักที่จะพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย และไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็จะพยายามฝึกให้ลูกของตัวเองรู้จักที่จะไปไหนมาไหนและทำอะไรด้วยตนเองให้ได้
อย่างเช่นหนุ่มน้อยวัย 12 ขวบนามว่า ไคโตะ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ citylab ในกรณีนี้ว่าเขาเริ่มนั่งรถไฟด้วยตัวเองมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ‘ครั้งแรกของผมเป็นอะไรที่รู้สึกกังวลมาก แม้ว่าผมจะสามารถนั่งรถไฟไปเองได้แต่ก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย’ ซึ่งปัจจุบันเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้สร้างความกังวลให้กับเขาอีกต่อไป
แต่ก็ใช่ว่าทางพ่อกับแม่จะไม่รู้สึกเป็นห่วง ซึ่งช่วงแรกๆ ก็แอบกังวลอยู่บ้าง แต่พอปล่อยให้เขาได้ลองซักครั้งเนื่องจากคิดว่าโตแล้ว ก็ควรที่จะทำได้เพราะเด็กคนอื่นๆ ก็ทำได้เหมือนกัน โดยที่ทางด้านแม่เลี้ยงของไคโตะเปิดเผยว่า ‘เพราะฉันคิดว่ารถไฟนั้นปลอดภัยและตรงเวลามาก ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าเขาจะกลับบ้านไม่ตรงเวลา แถมเขายังเป็นเด็กที่เก่งด้วย’
‘ฉันนั่งรถไฟด้วยตัวเองตั้งแต่ตอนที่ฉันยังมีอายุน้อยกว่าเขาซะอีก แถมตอนนั้นก็อยู่ในโตเกียวด้วย ในสมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ยังสามารถไปถึงจุดหมายจากจุด A ไปถึงจุด B ได้ ซึ่งถ้าเทียบกับตอนนี้ หากว่าเขาหลงทาง ยังไงก็สามารถโทรเรียกฉันได้’ แม่เลี้ยงของไคโตะกล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยมาก มีความปลอดภัยสูง และวัฒนธรรมทางสังคมของญี่ปุ่นกับการปลูกฝัง ผึกฝนให้พึ่งพาตนเองเสมอรวมไปถึงการเคารพสิทธิของผู้อื่น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลักษณะนิสัยความรับผิดชอบสูงเกิดขึ้นมาได้
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.