เหมียวเชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวของ ‘เชอร์โนบิล’ หนึ่งในสถานที่เกิดเหตุการรั่วไหลของนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
แ่ตอนนี้เหมือนว่าจะกลับกลายเป็นดีซะงั้น เพราะหลังจากเกิดการรั่วไหลของนิวเคลียร์และทำให้มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปรุกรานได้ ทำให้ธรรมชาติฟื้นตัวได้อย่างยอดเยี่ยม
หลังจากเกิดเหตุนิวเคลียร์รั่วไหลในปี 2529 ทำให้ประชากรนับแสนคนต้องอพยพ
ตอนนี้เรียกได้ว่าระบบนิเวศน์และธรรมชาตินั้นเฟื่องฟูอย่างมาก ทั้งเหล่าหมาป่า สุนัขจิ้งจอก ควายป่า แมวป่า รวมถึงเหล่ากวาง อาศัยอยู่ในแถบนี้เต็มไปหมด
Jim Smith ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย Portsmouth ได้กล่าวคำพูดสั้นๆ แบบเจ็บๆ ว่า ‘ถึงแม้จะมีผลกระทบด้านลบจากการที่นิวเคลียร์รั่วไหลในแถบนี้ แต่ไม่มีผลกระทบใดจะมากไปกว่าการมีสังคมมนุษย์ ที่กัดกินทรัพยากรธรรมชาติและสร้างมลพิษในพื้นที่นั้นๆ อีกแล้วล่ะ’
ซึ่งจะว่าไปไม่ได้โฟกัสที่ว่าการรั่วไหลของนิวเคลียร์ดีกว่านะจ๊ะ
แต่เป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย์ และสร้างมลพิษต่อพื้นที่นั้นๆ เสียมากกว่า ทั้งการล่าสัตว์ การตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการเกษตร ที่ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงนั่นเอง
โดยทางองค์กร Polessye State Radioecological Reserve ได้เป็นหน่วยงานที่สำรวจธรรมชาติในพื้นที่แถบนี้
ภายในไม่กี่ปี จำนวนประชากรสัตว์ในแถบนี้ก็เพิ่มขึ้นมากจนหนาตา แถมธรรมชาติและระบบนิเวศน์ ก็ฟื้นตัวจนสมบูรณ์มากๆ
เป็นภาพที่แปลกตาเหมือนกันนะเนี่ย
ภาพประกอบ
น่าคิดเหมือนกันนะเนี่ย แม้ว่าป่าจริงๆ ตามธรรมชาติก็เรียกได้ว่ายังมีมนุษย์บุกรุกเข้าไปเพื่อล่าสัว์บ้าง หาของป่า ตัดไม้บ้าง แต่ที่นี่ มนุษย์ไม่กล้าเข้าไปเพราะกลัวผลกระทบจากรังสี แต่กลับดีต่อธรรมชาติอย่างมหาศาล…
ที่มา: Metro
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.