รู้จักกับ Hyperloop ระบบขนส่งภาคพื้นดินแห่งอนาคต ที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 1,200 กม.ต่อชั่วโมง!!!

ในขณะที่ประเทศไทยยังคงถกเถียงกันว่าจะสร้างรถไฟฟ้ารางคู่ รถไฟฟ้าความเร็วธรรมดา หรือรถไฟฟ้าความเร็วสูงดี ในประเทศอเมริกากำลังก้าวไปอีกขั้นของระบบขนส่งสาธารณะด้วย Hyperloop รถไฟฟ้าพลังแม่เหล็กที่สามารถเดินทางด้วยความเร็วถึง 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Hyperloop เป็นโครงการที่คิดค้นขึ้นมาโดย Elon Musk นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีชั้นในในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น Tesla Motor, Paypal และระบบขนส่งอวกาศอย่าง SpaceX

โดย Hyperloop จะเป็นระบบขนส่งมวลชนที่ให้ผู้โดยสารเข้าไปนั่งในแคปซูลหน้าตาเหมือนกระสุน และแคปซูลนั้นจะวิ่งไปในท่อโดยใช้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าในการขับเคลื่อนรวมถึงใบพัดขนาดใหญ่ด้านหลัง  ซึ่งมันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ชินคังเซ็นยังแค่ 603 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)นั่นหมายความว่า เราสามารถเดินทางจากแม่สายไปเบตงได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น!!!

แม้โครงการนี้ฟังดูเหมือนจะเพ้อฝัน แต่สำหรับ Elon Musk ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ เขาต้องการจะปฏิวัติวงการการขนส่งของโลก หากโครงการ Hyperloop ประสบความสำเร็จขึ้นมาจริงๆ มันจะกลายเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่มีราคาถูกมาก หากเทียบกับความเร็ว และยังปลอดภัยกว่าระบบขนส่งชนิดอื่นๆด้วย นั่นยังไม่นับถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากใช้พลังงาน 100 เปอร์เซ็นจากแสงอาทิตย์

โดยจาการประเมินเบื้องต้น ต้นทุนของเจ้า Hyperloop นี้อยู่ที่ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.8 แสนล้านบาท) ต่อ 380 ไมล์ (610 กิโลเมตร) ซึ่งหากเฉลี่ยแล้ว ราคาค่าโดยสารจะสามารถลดลงถึงระดับ 20 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 700 บาทเท่านั้น ถูกกว่าเชิดชัยทัวร์เสียอีก!!

แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องให้เหล่านักพัฒนาให้ขบคิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุที่จะนำมาใช้ทำตัวแคปซูลและท่อส่ง ระบบความปลอดภัยภายใน เมื่อแคปซูลเร่งความเร็วถึง 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะส่งผลอย่างไรต่อผู้โดยสารหรือไม่

ซึ่งเราจะได้รู้กันเร็วๆนี้ เนื่องจาก Hyperloop กำลังจะมีการทดสอบจริงๆในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในพื้นที่ที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะ ก็ต้องรอดูชมกันต่อไปว่า ผลการทดสอบจะออกมาเป็นอย่างไร

ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆละก็ วงการระบบขนส่งสาธารณะของโลกนี้จะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เหมียวละอดใจรอวันนั้นแทบไม่ไหวละ ^^

ที่มา wired, CBS This Morning, Manager