เรื่องราวของนักกีฬาใจสู้ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นได้เหมือนกับนักกรีฑาคนอื่นๆ เรื่องราวของ Dan Berlin นักกีฬาผู้พิการทางสายตาคนแรกที่สามารถพิชิตเส้นทางเดินเขาอินคาอันทรหดได้ภายในวันเดียว เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา
ด้วยความช่วยเหลือของทีม See Possibilities ช่วยให้ Dan Berlin สามารถพิชิตเส้นทางนี้ด้วยระยะทางประมาณ 41 กิโลเมตร (26 ไมล์) ภานในเวลา 13 ชั่วโมง ซึ่งสำหรับเส้นทางนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ไม่เหมาะสำหรับนักกีฬาสมัครเล่น แม้แต่นักกีฬาที่แข็งแกร่งครบ 32 ยังยอมรับว่ายากมาก โดยปกติแล้วจะใช้เวลามากถึง 4 วันเพื่อพิชิตเส้นทางแห่งนี้
เส้นทางสุดโหดจะต้องเดินผ่านภูเขา 3 ลูก และสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 4,267 เมตร (14,000 ฟุต) โดยหนึ่งในทีมผู้ช่วยเหลือ Charles Scott กล่าวเอาไว้ว่า ‘พวกเราได้พูดคุยกับไกด์ท้องถิ่นก่อนวันที่จะพิชิตเส้นทางซึ่งเขาก็บอกเอาไว้ว่า ผมเดินมามากกว่า 215 ครั้งแล้ว และสิ่งที่พวกคุณจะทำมันเป็นไปได้ แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าอาจจะใช้เวลามากกว่า 1 วัน’
อย่างไรก็ตามถึงแม้ Dan จะมองไม่เห็น แต่ด้วยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมานั้นไม่ได้ลดทอนความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาเลยแม้แต่น้อย โดยเขาตัดสินใจมาเป็นนักวิ่งมาราธอนก็เพื่อที่จะต่อสู้กับความโศกเศร้าที่ก่อตัวขึ้นมานั่นเอง
Alison Qualter Berna ได้พูดถึง Dan เอาไว้ว่า ‘สิ่งเลวร้ายได้เกิดขึ้นกับ Dan ในช่วงวัย 30 ปี มันไม่เป็นธรรมกับเขาเลย แต่เขาก็ไม่ยอมให้มันฉุดรั้งเขาเอาไว้ และในตอนนี้เขาก็ได้ทำในสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ’
ทีมปีนเขาเริ่มต้นการเดินทางตั้งแต่เวลา 4.30 น. เริ่มต้นปีนเขาท่ามกลางความมืดมิด โดนตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องไปถึงจุดเช็คพอยท์ในเวลา 16.00 น. ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
ผ่านไปหลายชั่วโมง เส้นทางก็ยากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งระดับความสูงที่เพิ่มมากขึ้น ไหนจะต้องเจอกับทางลื่นและแคบอีกมากมาย ทั้งทีมต้องพบกับอุปสรรคมหาศาล
แต่ด้วยเทคนิคที่ให้ Dan จับกระเป๋า Berna และ Scott เอาไว้ วางตัวในลักษณะสี่เหลี่ยมคางหมู ทำให้การเดินทางสามารถไปได้อย่างรวดเร็ว
จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถไปถึงจุดเช็คพอยท์ก่อนเวลาที่กำหนดไว้เพียง 2 นาที!!
ณ เวลาประมาณ 17.40 น. พวกเขาไปถึงยอดมาชูปิกชูได้สำเร็จ สามารถพิชิตเส้นทางอันทรหดได้อย่างสวยงาม
Berna เปิดเผยเอาไว้ในตอนท้ายว่า ‘เป้าหมายสำหรับคนทั่วไปก็คือการได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของมาชูปิกชู แต่สำหรับ Dan ไม่ใช่การมองเห็นวิวเหล่านั้น แต่เป็นการได้เดินในเส้นทางปีนเขานี้ เขาสัมผัสมันได้และนั่นก็ทำให้เขามีความสุขที่สุดในชีวิต’
ที่มา : thechive
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.