จากคลิปข่าวจาก Voice TV จะว่าไปแล้วหากย้อนกลับไปในช่วงที่เครื่องดื่มชาเขียวบรรจุขวดเพิ่งเข้ามาทำตลาดใหม่ๆ เป็นเจ้าแรกและมีเจ้าเดียวในประเทศไทย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากไม่ว่าจะในทั้งด้านยอดขายและการตลาด
แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดการแข่งขันขึ้นมาอีก เมื่อเจ้าของเดิมออกมาทำอีกแบรนด์เพื่อมาสู้กับแบรนด์เก่าของตัวเอง คราวนี้การแข่งขันทางด้านการตลาดและยอดขายก็เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้เรามาดูว่าเมื่อก่อนลักษณะการเลือกซื้อและดื่มชาเขียวบรรจุขวดของคนไทยเป็นอย่างไรบ้าง แรกๆ ที่เหมียวเองสัมผัสได้ก็คือรสชาติของชาเขียวที่ถูกปากคนไทยนั้นจะเน้นความหวานซะมากกว่า
ยิ่งแช่เย็นมากเท่าไหร่บวกกับความหวานที่ใส่เข้าไปก็ยิ่งถูกใจคนไทยมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะด้วยอากาศเมืองไทยที่มันร้อนซะเหลือเกินด้วยแหละมั้ง
เมื่อมาถึงจุดเปลี่ยนของวงการชาเขียวที่มีการแข่งขันสูง พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วย เมื่อมีการอัดแผนการตลาดแบบชิงโชคเข้ามา
ทั้งฝั่งแบรนด์เก่า และฝั่งแบรนด์ใหม่ที่เทียบชั้นได้อย่างรวดเร็ว บวกกับการโปรโมตผ่านโซเชียลและอื่นๆ อีกมากมาย ยังไม่รวมเรื่องราวดราม่าที่ก่อให้เกิดความเอนเอียงเข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
จากที่ผู้บริโภคซื้อเครื่องดื่มชาเขียวบรรจุขวด เพื่อดับกระหายคลายร้อน (ยังไม่รวมอาการติดหวานนะ) ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าติดหวานด้วย ไหนจะติดชิงโชคเหมือนกับหวยอีก
แต่ยังมีที่หนักไปกว่านั้นก็คือการซื้อมาเพื่อเอาเพียงแค่รหัสใต้ฝาหรือไม่ก็ยินยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รหัสใต้ฝาเพื่อส่งชิงโชคเพียงอย่างเดียว เครื่องดื่มข้างในขวดไม่สนใจ นำไปเททิ้งหรือไม่ก็ให้ผู้อื่นดื่มแทน ไหนจะลามไปถึงผุดธุรกิจฝาชาเขียวขึ้นมาอีก!!
แจกทอง แจกแพคเกจทัวร์ต่างประเทศ และอื่นๆ อีกมากมาย
และด้วยรางวัลต่างๆ ที่โหมกระหน่ำแจกให้ผู้โชคดีเพียงไม่กี่ราย กลับต้องทำให้หลายๆ คนทุ่มเทไปกับการซื้อและเฟ้นหารหัสใต้ฝาเพื่อมาชิงโชค กลายเป็นการหล่อหลอมพฤติกรรมเสี่ยงดวงที่ไม่อาจแก้ไขได้อีก
โดยหวังว่าการส่งชิงโชคถ้าถูกรางวัลชีวิตก็จะดีขึ้น แต่ผลสุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย เสียทั้งสุขภาพร่างกาย (ความหวานจากเครื่องดื่ม) ไหนจะเสียสุขภาพจิตอีก (จากการไม่ถูกรางวัลซักที)
รู้สึกว่าทองคำจะแจกบ่อยที่สุด แต่หลังๆ มาเริ่มเปลี่ยนไปไอโฟนกับรถยนต์หรูแทน
เหมียวเองก็พบว่าบุคคลรอบข้างก็ส่งชิงโชครหัสใต้ฝาชาเขียวเหมือนกันนะ แต่ยังที่เป็นการส่งชิงโชคแบบเท่าที่มี คือซื้อมาดื่มเฉยๆ แล้วส่วนรหัสใต้ฝาที่เหลือก็ส่งเท่าที่มี ไม่ใช่ตะบี้ตะบันซื้อมาดื่มและส่งชิงโชคเป็นร้อยเป็นพันขวด แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
จากทั้งหมดในข้างต้นเป็นเพียงความคิดเห็นของเหมียวเอง แล้วพวกท่านล่ะ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มชาเขียวบรรจุขวดของคนไทยที่เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง!?
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.