ทางเลือกการศึกษา!! หนุ่มจากสถาบัน MIT ลาออกมาตั้งวิทยาลัยเอง เรียนก่อน จ่ายทีหลัง!!

นับว่าเป็นอีกปัญหาหนึ่งของการศึกษาในระดับที่สูงๆ อย่างการเรียนในระดับอุดมศึกษา (ทั้งมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย) นั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ จนทำให้เหล่านักเรียน นักศึกษาต้องหันหน้าเข้าหาแหล่งเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (ในประเทศไทยก็คือ กยศ.)

ซึ่งสำหรับที่ต่างประเทศก็มีเช่นเดียวกัน แต่ทว่าด้วยค่าเทอมที่สูงลิบ ค่ากิน ค่าอยู่ก็แพง รวมไปถึงหนี้จากการกู้ยืมเพื่อการศึกษาก็มีจำนวนสูงเช่นกัน โดยหนึ่งในนักศึกษาจากสถาบัน MIT – Jeremy Rossman เขาก็ประสบกับปัญหาหนี้จากการกู้ยืมเพื่อการศึกษานี้

เพียงระยะเวลาที่เป็นนักศึกษาผ่านไปแค่ 9 เดือน (ค่าเทอม ค่าความเป็นอยู่) ก็ปาเข้าไปแล้วประมาณ 1.6 ล้านบาท (44,720 ดอลลาร์) เขาจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะทำได้มาก่อน นั่นก็คือการลาออก และไปตั้งวิทยาลัยของตัวเอง

เขาไม่ได้ก่อตั้งเพียงคนเดียว ยังมี Ashu Desai เป็นผู้ร่วมก่อตั้งด้วย พวกเขาตั้งชื่อว่า The Make School (โรงเรียนแห่งการสร้าง) โดยให้นิยามคือเป็นระบบ Anit-College (ต่อต้านระบบวิทยาลัยแบบเก่า) โดยจะเป็นสถานที่เรียนสำหรับผู้ก่อตั้งเองและเหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย

ความแตกต่างของวิทยาลัยแห่งนี้ก็คือ นักเรียน นักศึกษาที่เข้ามานั้นไม่ต้องจ่ายค่าเทอม ทำให้ปลอดหนี้จากทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยเป็นในรูปแบบเรียนก่อน จ่ายทีหลัง ซึ่งหากใครได้งานทำหลังจากเรียนจบแล้ว จึงจะมีการเรียกเก็บค่าเทอมตามมา

และการเรียนการสอนที่นี่จะไม่มีการสอบ จะเป็นการทำโปรเจคกลุ่มแทน ซึ่ง Rossman เองก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘ปรัชญาหลักของเราก็คือถ้าคุณสอนแต่สิ่งเดิมๆ สองปีติดกัน มันจะเป็นสิ่งที่ผิดในศาสตร์ของวิทยาการคอมพิวเตอร์ อีกทั้งวิศวกรรมซอฟต์แวร์นั้นเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก’

ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา The Make School ก็มีจำนวนนักเรียนที่เรียนเต็มเวลามากถึง 30 คนแล้ว พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านที่มีรูปแบบคล้ายกับหอพักมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังได้มีโอกาสสัมผัสกับบริษัทซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ชั้นนำที่ตั้งในบริเวณใกล้เคียงด้วย

นอกจากการเรียนการสอนทางด้านซอฟต์แวร์แล้ว Rossman ยังสอนในเรื่องของชีวิตประจำวันเช่น สารอาหาร, สุขภาพ, การออกกำลังกาย และทักษะทางด้านการเขียน

แต่ก็ใช่ว่าสถาบันแห่งนี้จะเปิดแขนอ้ารับทุกคนที่สนใจ เพราะหากคุณไม่ตั้งใจมาเรียนจริงๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเสียเวลาเรียนในสิ่งที่ไม่ได้นำไปใช้

ที่มา : thechive