จดหมายเปิดผนึกถึง ‘ผู้ข่มขืน’ กับความในใจอันบอบช้ำ ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’

เรื่องของการข่มขืนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีการรณรงค์และต่อต้านมากมายซักเพียงใดก็ตาม ก็ยังคงเป็นปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นรายวัน

บางครั้งก็สามารถจับกุมผู้กระทำได้ แต่ส่วนมากแล้วก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย เหลือเพียงแต่ร่างกายและจิตใจที่ถูกทำร้าย เป็นแผลลึกที่ฝังอยู่ในจิตใจเหยื่อที่ถูกข่มขืน

 

a-man-who-rape-me

 

ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถลบเลือนไปได้เลยนั้น จะต้องได้รับการเยียวยาอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกได้ว่ายังมีชีวิตอยู่และก้าวข้ามผ่านความทุกข์ทรมานไปให้ได้ อย่างเช่นเรื่องราวของเหยื่อข่มขืนรายหนึ่งที่ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกไปถึงผู้ที่ข่มขืนเธอ ด้วยใจความที่ว่า ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’

 

ภาพประกอบโดย Aleksandra Waliszewska

a-man-who-rape-me (2)

 

ในขณะที่ฉันกำลังเลือกเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปงานปาร์ตี้ในยามค่ำคืน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นคืนที่น่าจดจำ เป็นประสบการณ์ช่วงชีวิตมัธยมอย่างที่มันควรจะเป็น แค่คุณแม่ของฉันก็ยังอดห่วงไม่ได้ ไม่อยากให้ไปงานปาร์ตี้ ‘แม่กลัวว่าลูกจะรับมือมันไม่ไหว’ แต่ฉันก็บอกไปว่า ‘มันจะเป็นคืนที่วิเศษที่สุดอย่างแน่นอน จะได้สัมผัสกับอิสระและชีวิตวัยรุ่นที่มันเป็นของจริง’ ซึ่งจริงๆ แล้วฉันก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า หนทางข้างหน้าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร

 

เขาคนนั้นเป็นสิ่งแรกที่ฉันเจอภายในคืนนั้น ยืนรออยู่ในมุมของห้องด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ เป็นสัตว์ประหลาดที่จะเปลี่ยนชีวิตของฉันไปตลอดกาล ถึงแม้ว่าจะได้ยินเรื่องราวอะไรมามากมาย ฉันก็ยังคงเชื่อว่าความเป็นมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ดี ดวงตาสีฟ้าเข้มที่มองเข้ามา ทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้เลย และในค่ำคืนนั้นเองเวลาผ่านไปเร็วมากในตอนแรก ภาพมันเบลอไปหมดด้วยฤทธิ์ของยาและเหล้า

 

เมื่อฉันกลืนเหล้าลงคอไปแล้ว เขาก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้มาขึ้น ราวกับอีแร้งที่รอให้เหยื่อหมดลมหายใจ ในไม่ช้าผนังก็เหมือนพังลงมา กดทับร่างกายระหว่างเขากับฉัน แผ่นหลังเริ่มสูญเสียความแข็งแรง ขาของฉันก็อ่อนแรงเช่นกัน

 

ฉันพยายามตะโกนออกไปว่า ‘ฉันอยากกลับบ้าน ฉันอยากจะนอนแล้ว ใครก็ได้พาฉันไปนอนบนเตียงชั้นบนที’ เสียงกระซิบจากสัตว์ประหลาดตัวนั้นผ่านเข้ามาในหู ‘ทุกอย่างจะโอเค ฉันจะดูแลเธอเอง’ ฉันยังสัมผัสได้ถึงแขนที่สัมผัสกับผิวหนังอันบอบบาง ลากฉันเข้าไปในโรงรถ โดยที่เท้าของฉันถูไปกับพรมของห้องใต้ดิน

 

สายตาคู่นั้นเริ่มเปลี่ยนไป มองฉันอย่างสนุกสนานในสภาพที่ฉันกำลังหมดแรงคล้ายกับศพ หลังจากที่ประตูโรงรถปิดลง ฉันก็หลับตา พยายามหาทางไปยังโลกอื่นภายในความคิด โลกที่จะพาฉันออกไปจากที่นี่ และในตอนนั้นเองฉันก็นึกถึงแม่ และตัวฉันเองก็พยายามที่จะคลานไปหาเตียงของแม่เพื่อที่จะหนีสัตว์ประหลาดที่คลานตามหลังมา

 

ฉันพยายามที่จะนึกถึงช่วงเวลาที่แม่อุ้มและลูบหลังอย่างอ่อนโยน หรือตอนที่แม่มาห่มผ้าห่มให้ พยายามที่จะสร้างบ้านขึ้นมาท่ามกลางช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง และแล้วความเจ็บปวดก็เริ่มเข้ามาแทนที่

 

เขาวางร่างกายของฉันเหมือนกับตำแหน่งบนไม้กางเขน จังหวะที่ได้ยินเสียงประตูปิดฉันรู้สึกโล่งอกเพราะคิดว่าเขาจะออกไป แต่เงาร่างกายของเขากลับใหญ่โตมากขึ้นกว่าเดิมจนบดบังแสงจากหลอดไฟทำให้ดูเหมือนดั่งเทพบุตร แต่มันแปลกๆ ไปหน่อยตรงที่ว่าเทพบุตรลงมาจุติในนรก

 

ร่างกายของฉันเริ่มที่จะเฟ้นหาสวรรค์ แต่สวรรค์ที่แท้จริงอยู่หลังประตูบานนั้น ฉันเริ่มจมดิ่งลงไปในความเยือกเย็น ลมหายใจเน่าเหม็นกำลังแผดเผาลงบนผิวหนังของฉัน คำอ้อนวอนกำลังพยายามคลานออกมาจากปากของฉัน แต่สุดท้ายมันก็ออกมาไม่ได้

 

‘ฉันรู้ว่าเธอต้องการสิ่งนี้’

 

ฉันพยายามจ้องมองที่ตาของเขา ฉันพยายามหาเหตุผลว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ แต่ดวงตาของเขาไม่ได้บอกอะไรเลย บอกได้เพียงแค่ว่าที่เขาทำลงไปนั้นก็เพียงเพราะแค่อยากจะทำ ‘จดจ่อกับความเจ็บปวด มันไม่มีอะไรที่เป็นจริงหรอก’ เสียงนี้ดังลั่นอยู่ในหัวของฉัน ความเจ็บปวดเหล่านั้นยังดีกว่าที่ต้องมารับรู้ว่าความจริงเกิดอะไรขึ้น ฉันรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของการเผาผลาญ มันคงที่และราบรื่น

 

แต่แสงจากหลอดไฟที่ลอดผ่านเงาข้างหลังของเขานั้นกลับให้ความรู้สึกหยาบกระด้างและเย็นชา เสียงของเด็กน้อยกรีดร้องด้วยความสุขกำลังจมดิ่งลงไปในสมอง ทันใดนั้น น้ำหนักก็กดทับซี่โครงตั้งแต่ส่วนหน้าอกลงไป ร่างกายของสัตว์ประหลาดกำลังบดบังแสงสีขาว

 

สายตาคู่นั้นกำลังจ้องมองร่างกายอันแหลกเหลว และพูดออกมาว่า ‘เธอหลอกฉัน อีตัวสกปรก’ ภายในห้องนั้นมีเพียงแต่ความมืด และภายในนั้นมีเพียงแต่ตัวฉันอย่างโดดเดี่ยว แม้จะพยายามแยกร่างกายออกจากพื้นอันเยือกเย็นด้วยมือของฉันแล้วก็ตาม ฉันทำไม่ได้

 

‘ภายในร่างกายของฉันกำลังลุกเป็นไฟ ไฟที่หลอกล่อให้แมลงเม่าบินเข้ามาหาความตาย’

 

ภาพประกอบโดย Aleksandra Waliszewska

a-man-who-rape-me (1)

 

ฉันได้มอบชีวิตไปกับร่างกายที่ยอมแพ้ ปลายนิ้วของฉันสั่น จนไม่อาจที่จะหยิบเสื้อผ้าที่ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะใส่มันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ต้นขาที่บวมกำลังต่อสู้กับความอ่อนแอของนิ้วที่ถูกบดขยี้ ฉันพยายามด้วยแรงเฮือกสุดท้าย พาร่างกายตัวเองไปให้ถึงลูกบิดประตู และอยากจะให้มันเปิดออกไปให้ได้

 

รอยยิ้มที่อยู่รอบตัวฉันกลายเป็นก้อนเมฆแห่งความสับสน ทุกคนก็ยังคงฉลองกับการเริ่มต้นของฤดูร้อน ยังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม หลังจากประตูเปิดออก สายตาจากข้างนอกห้องก็เริ่มมองผ่านประตูที่ความบริสุทธิ์ของฉันถูกมันกลืนกินเข้าไป

 

ความตายที่คลืบคลานเข้ามาหาฉันก็คือ ปีศาจผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า และมีรอยยิ้มที่กว้างเกินกว่ามนุษย์

ที่มา : artparasites

Comments

Leave a Reply