รวม 11 วิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอดได้ในวันที่ “เหงา” แบบสุดๆ

เชื่อว่าความรู้สึกเหงา เป็นความรู้สึกที่ใครก็ไม่อยากเจออย่างแน่นอน ลองนึกภาพคุณตื่นมาแล้วไม่รู้จะคุยกับใครหรือไปหาใคร สุดท้ายก็ได้นั่งดูทีวีแบบเปล่าเปลี่ยวคนเดียวในบ้านสิ มันน่าทรมานขนาดไหน และยิ่งถ้านั่นเป็นความผิดปกติของสมองแล้วล่ะก็ ความอันตรายก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก

วันนี้เหมียวจึงจะพาเพื่อนๆไปดู 11 วิธีเอาตัวรอดในวันที่ “ความเหงา” เข้ามาเล่นงานคุณ จงอย่าประมาท เพราะนั่นอาจหมายถึงชีวิตของคุณ!

 

1. หาหนังสือมาอ่าน

 

บางครั้งเวลาชีวิตเราเจอกับความยากลำบาก ลองหนีโลกแห่งความจริงไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการดูสิ รับรองว่าช่วยได้อย่างแน่นอน ถ้านึกไม่ออก ลองเดินเข้าไปในร้านหนังสือ แล้วให้พนักงานแนะนำดู รับรองว่าคุณจะได้หนังสือดีๆมาเป็นกะตั๊กแน่นอน วิธีนี้เหมียวคอนเฟิร์ม เพราะเคยทำมาแล้ว อิอิ

 

2. ลองไปเล่นกับสัตว์ต่างๆ

 

มีงานวิจัยที่เชื่อถือได้งานหนึ่งบอกว่า การมีปฏิสัมพันกับสัตว์ช่วยทำให้เกิดสุขภาพจิตที่ดีได้ ดังนั้นลองไปแวะเยี่ยมสถานรับเลี้ยงสัตว์แถวบ้านดู หรือถ้าไม่มี ลองไปตามวัดหรือคาเฟ่หมาแมวอะไรก็ได้ รับรองว่ามีสัตว์เลี้ยงให้คุณได้เล่นด้วยเพียบเลยล่ะ

 

3. เข้าเว็บไซต์ที่มีคนประสบปัญหาเดียวกับคุณ

 

เชื่อหรือไม่ การได้คุยกับคนที่มีปัญหาเดียวกับคุณ สามารถช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นได้ เพราะอย่างน้อยคุณก็ไม่ใช่คนเดียวในโลก ที่ต้องเจอกับปัญหานี้

 

4. ลองหากลุ่มคนที่สามารถช่วยเหลือได้

 

ถ้าการเข้าเว็บไซต์ยังไม่ทำให้คุณรู้สึกดีเท่าไหร่นัก ลองหากลุ่มคนที่ประสบปัญหาเดียวกับแถวๆบ้านคุณสิ การได้คุยจริงๆจังๆกับคนที่มีปัญหาเดียวกัน จะช่วยคุณได้มากเลยล่ะ แต่ในไทย กลุ่มแบบนี้อาจจะหายากซักหน่อย แต่ไม่แน่อาจจะมีแอบซ่อนอยู่ก็ได้

 

5. ดูหนัง

 

การดูหนังช่วยคุณคล้ายๆกับที่หนังสือสามารถช่วยได้ คุณสามารถหลีกหนีโลกแห่งความเป็นจริง แล้วสนุกสนานกับตัวละครและการตำเนินเรื่องได้ และจะยิ่งดีขึ้นไปอีก หากคุณสามารถหาหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณได้ ถ้านึกไม่ออก ลองดู 47 หนังสร้างแรงบันดาลใจนี่สิ รับรองว่ามีประโยชน์แน่นอน

 

6. หานักบำบัด

 

การหานักบำบัดอาจเป็นอะไรที่ดูน่ากลัวสำหรับคนไทย แต่เชื่อเถอะว่า การมีคนที่คุณสามารถเล่าทุกอย่างให้ฟังได้ จะส่งผลดีต่อคุณและสุขภาพจิตของคุณมากๆ จงอย่าอายที่จะพบผู้เชี่ยวชาญ ชีวิตของคุณมีค่ามากกว่าความอายนั่นเยอะ

 

7. คุยกับเพื่อนหรือครอบครัว

 

คุณอาจคิดว่าการทำแบบนี้อาจทำให้ครอบครัวหรือเพื่อนรู้สึกรำคาญ โดยเฉพาะเวลาคุณอยากเล่าอยากบ่นเรื่องราวให้ฟังทุกวัน แต่จำไว้อยางหนึ่งว่า การที่คุณยอมเล่าปัญหาของคุณก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีมากๆแล้ว คนที่รักคุณจริงจะไม่ยอมผลักไสคุณออกไปอย่างแน่นอน

 

8. หาสื่อหรือบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณต้องเผชิญ

 

การได้ดูหรืออ่าน ข้อมูล สาเหตุ หรือ ต้นกำเนิดของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณ สามารถช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นได้ ไม่ว่าคุณจะมีอาการใด เช่น ซึมเศร้า, ตื่นตระหนก, สมาธิสั้น และอื่นๆ

 

10. อ่านเรื่องราวของคนที่เล่าเรื่องปัญหาด้านสุขภาพจิต

 

มีน้อยคนนักที่อยากเล่าปัญหาสุขภาพจิตของเขาให้คนอื่นๆฟัง แต่ถ้าพวกเขาเล่า มันสามารถส่งผลอย่างใหญ่หลวงให้กับผู้อ่าน และยิ่งเป็นคนที่มีชะตากรรมคล้ายๆกันแล้วล่ะก็ พวกเขาจะรู้สึกว่า พวกเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก

 

10. โทรหาสายด่วนสุขภาพจิต

 

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าในไทยเองก็มีสายด่วนแบบนี้อยู่ ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่า คุณเริ่มรับมือกับอารมณ์ของตัวเองไม่ไหวแล้ว กดโทรหา 1667 โดยด่วน ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยคุณให้พ้นจากสถานการณ์นั้นเอง

 

11. พบหมอ

ถ้าทุกสิ่งที่อย่างเลวร้ายเกินกว่าที่คุณจะควบคุมไหว จงไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียเถอะ เพราะบางทีมันอาจเกิดจากความผิดปกติทางร่ายการก็เป็นได้ ผู้เชี่ยวชาญจะคอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิด อย่าคิดว่าคุณรับมือไหว เพราะสุดท้ายทุกสิ่งอาจเลวร้ายลงกว่าที่คุณคาดคิด

 

 

ในประเทศไทยเรา ผู้คนยังไม่ตระหนักถึงภัยอันตรายจากอาการป่วยทางด้านจิตใจซักเท่าไหร่ หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป อันตรายที่เกิดขึ้น อาจหนักหนากว่าที่คุณคาดคิด

ที่มา Buzzfeed