สำหรับใครที่ไปชมภาพยนตร์ในโรงเป็นประจำ หรือไม่ต้องเป็นประจำก็ได้ เพียงแค่เดือนละครั้ง สองครั้ง แล้วได้ซื้อของกินที่ทางโรงภาพยนตร์เป็นผู้จัดจำหน่ายเอง ต่างก็จะรู้กันเป็นอย่างดีว่ามีราคาสูงมาก
อย่างเช่น ป๊อปคอร์นแพงกว่าตั๋วภาพยนตร์ แม้กระทั่งน้ำเปล่าธรรมดาก็ปาเข้าไป 20 กว่าบาทแล้ว ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะมีสิทธิ์ที่จะสามารถนำเข้าไปรับประทานในโรงได้นั่นเอง จึงมีราคาแพง (ก็ว่ากันไป)
แม้ไม่อาจร้องเรียนให้ทางผู้บริหารภาพยนตร์ให้ปรับลดราคาได้ ก็ไม่เป็นไร ใครจะซื้อก็ซื้อ ส่วนใครไม่ซื้อก็แนะนำให้หาอะไรทานให้อิ่มก่อนที่จะเข้าชมภาพยนตร์ แต่แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับโรงภาพยนตร์ มจ. สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ที่มีพนักงานตั้งใจจะโกงหรือพยายามที่จะโน้มน้าวให้ซื้อของที่มีราคาแพงกว่า
เรื่องราวของคุณ Tobsuthawut ที่ได้ทำการโพสต์ในกระทู้พันทิปเอาไว้ว่าเขาได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องรุ่นพี่กับแฟน ซึ่งก่อนที่จะไปชมภาพยนตร์นั้น ก็แวะซื้อน้ำดื่ม โดยเน้นย้ำว่าจะซื้อแค่น้ำเปล่าขวดเดียว พนักงานจึงหยิบน้ำแร่และบอกว่าราคา 30 บาท
แต่ด้วยราคาที่แพง เขาก็เลยบอกแฟนว่าเอาเป็นน้ำเปล่าทั่วไปก็พอราคา 25 บาท ทางด้านแฟนของเขาก็ปฏิเสธน้ำแร่และขอน้ำเปล่าธรรมดา แต่พนักงานก็บอกเอาไว้ว่าราคาเท่ากันนั่นก็คือ 30 บาท พร้อมกับหยิบขวดน้ำเปล่าทั่วไปที่ไม่มีป้ายติดราคามาให้
และด้วยความผิดปกตินี้ ซึ่งเขาและแฟนเคยซื้อในราคา 25 บาท จึงถามว่ามีการขึ้นราคารึเปล่า พนักงานมีท่าทางสะอึกเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่า ‘งั้น 25 บาทก็ได้ครับ’ อีกทั้งยังบอกว่า ‘ถ้าลูกค้าเคยซื้อ 25 บาท งั้นก็ 25 บาท เดี๋ยวจะจ่ายส่วนต่าง 5 บาทให้เอง’
แต่สุดท้ายก็ยังอดสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่าทำไมราคาน้ำเปล่าทั่วไปถึงมีราคาเท่ากับน้ำแร่ จึงขอให้พนักงานนำขวดน้ำเปล่าทั่วไปที่มีป้ายติดราคานำมาให้ตรวจสอบ และแล้วก็พบว่าความจริงมีราคา 25 บาทเท่านั้น เหมือนกับว่าจงใจหยิบขวดที่ไม่มีป้ายราคาติดมาให้ก่อน เพื่อที่จะขายได้ในราคาน้ำแร่ หรือพยายามที่จะโน้มน้าวให้ซื้อน้ำแร่กันแน่?
ภายหลังทางเจ้าของกระทู้ก็ได้ทำการร้องเรียนกับหัวหน้าแผนกขายตั๋ว เนื่องจากผู้จัดการสาขาไม่อยู่ ก็เลยรับเรื่องเอาไว้พร้อมกับโทรแจ้งผู้จัดการสาขาให้ทราบ อีกทั้งยังได้ตั๋วภาพยนตร์ฟรี 2 ใบเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
นอกจากนี้ยังร้องเรียนผ่านช่องทางอีเมลล์แล้วก็ได้รับคำตอบมาดังต่อไปนี้
ภายหลังก็ได้มีการพูดคุยกันผ่านโทรศัพท์จากส่วนกลางของสำนักงานใหญ่ ได้แจ้งมาว่าดำเนินการตรวจสอบพนักงานขายคนดังกล่าวแล้ว และพบว่าดำเนินการผิดขั้นตอนและจะต้องถูกบังคับให้ออก แต่ไม่ได้พูดถึงว่ามีการตั้งใจทุจริตเลย ถ้าเกิดว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป แค่ 5 บาทแต่ได้จากหลายคน มันก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนที่ไม่น้อยเลยนะ
ที่มา : pantip
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.