[วิจารณ์ส่งเดช] Cop Car – เมื่อเด็กคู่หูสุดซน ขโมยรถตำรวจที่ทำเรื่องไม่ดี งานนี้มีลุ้น!!

สวัสดี วันนี้เหมียวสามสีผู้ไม่ได้รีวิวหนังมานานมาก เพราะขี้เกียจ ต่างกับเหมียวอีกตัวหนึ่ง ซึ่งปกติเหมียวก็ไม่ได้ค่อยมาวิจารย์สักเท่าไหร่ ส่วนมากจะมาแนววิเคราะห์ซะมากกว่า แต่วันนี้ไปดูเรื่อง Cop Car มา ไม่อยากจะให้คนคิดมาก ก็เลยจะมีรีวิวแทนแล้วกัน

ต้องบอกก่อนเลยว่าบทความนี้อาจมีสปอยเล็กน้อย แต่รับรองว่าไม่อ่านแล้วก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของหนังลดลงไป อีกทั้งขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลด้วยนะจ๊ะ

สิ่งที่ทำให้เหมียวไปดู Cop Car ก็คือตัวอย่างหนังเลย เหมียวคิดว่าพล็อตหนังมันเจ๋ง แต่ดี ดูไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับดูเอาเพลินๆได้ ก็เลยเลือกไปดู แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครกำกับ เพราะปกติจะเลือกหนังที่ผู้กำกับ แต่อันนี้ดูเพราะตัวอย่างเลย ถือว่าเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ

Cop Car กำกับโดย Jon Watts บอกเลยว่าเหมียวไม่รู้จักผู้กำกับคนนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กน้อย 2 คน ที่ซนเอามากๆ หนีออกจากบ้านมาเจอกับรถตำรวจที่จอดทิ้งไว้ ทั้งสองจึงอยากลองเป็นฮีโร่ดู ก็เลยขโมยรถตำรวจนั้นซะเลย แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าของรถนั้นคือตำรวจที่กำลังจะอำพรางศพ และได้ซ่อนไว้ในรถ พอตำรวจกลับมาที่รถเพื่อจะเอาศพไปทิ้ง รถก็หายไปเสียแล้ว

จากนี้ก็เป็นเรื่องราวการตามล่าของตำรวจ ที่ต้องหาเด็กๆ ให้เจอ ก่อนที่ความลับของเขาจะถูกเปิดโปง บอกเลยว่าเหมียวออกโรงมา เล่าให้เพื่อนฟังแบบสปอยแป๊บเดียวก็จบแล้ว หนังไม่ได้มีพล็อตที่ซับซ้อนอะไรเลย

แต่ถ้าตามว่าชอบไหม? ก็ชอบนะ 

เริ่มด้วยหนังเรื่องนี้พยายามที่จะทำให้เรานึกถึงความเป็นเด็ก นึกถึงความซนของเราในตอนที่ชอบเล่นเป็นบทบาทสมมติ อย่างในเรื่องนี้เด็กพยายามเล่นเป็นตำรวจ เหมียวเชื่อว่าใครหลายคนก็เคยอยากลองเป็นดูเหมือนกัน เพราะเราดูจากหนังมารู้สึกว่ามันเท่เอามากๆ

แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนอาจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้นั่นก็คือความนิ่งของมัน หนังเรื่องนี้มีบทพูดที่ค่อยข้างน้อย เน้นไปที่การแช่ภาพหรือการใช้กล้องเสียมากกว่า เราต้องดูจากสีหน้าตัวละครเองว่าคิดอะไรอยู่ ถ้าใครไม่ถูกกับหนังนิ่งๆอาจจะมีหลับได้เลย

แต่เหมียวชอบความนิ่งของมันนะ มันเป็นความนิ่งที่ชวนลุ้นเอามากๆ ถึงแม้ว่ามันไม่ได้ลุ้นแบบสุดๆ เหมือน Argo ในตอนสุดท้าย แต่ก็มีวินาทีที่ทำให้เราลืมหายใจไปได้เหมือนกัน อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ซึ่งเหมียวชอบในจุดนี้

การดูหนังเรื่องนี้มันยังทำให้เหมียวรู้สึกถึงการรับอิทธิพลมาจากหนังในยุค 80 ที่เกี่ยวกับการขับรถบนถนนยาวๆ อย่างพวก Mad Max ภาคเก่าๆ (ภาค 2 สนุกมาก) ได้ อีกทั้งยังได้ความรู้สึกของหนังเรื่อง No Country For Old Men อีกด้วย เวลาดูมันก็จะยิ่งอินไปกว่าเดิมอีก ถ้าใครชอบหนังแนวๆนี้

สำหรับช่วงนี้ที่มีหนังออสการ์เข้ากันเป็นว่าเล่น ใครไม่อยากดูหนังยากๆ เรื่องนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนชอบอะไรที่สนุกแบบนิ่งๆ ย้ำอีกครั้งว่าหนังเรื่องนี้ค่อนข้างนิ่ง แต่ลุ้นเอามากๆ เลยนะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนชอบด้วย ถ้าแพ้ทางอาจหลับได้จริงๆ (เจอคนหลับจริงๆนะเออ)

ปล. ตอนจบนี้อึ้งจริง

เอาคะแนนมาให้ดูเผื่อตัดสินใจ แต่ก่อนไปเหมียวไม่ได้ดูคะแนนนะ เสี่ยงล้วนๆ 555