สำหรับใครที่อยากจะเป็นสักขีพยานในวีรกรรมอันกล้าหาญครั้งนี้ เราขอแนะนำให้ชมเรื่อง The Finest Hour เลยครับ!!!
ก่อนอื่นเราจะท้าวความไปยังเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 1952 มีพายุลูกใหญ่พัดเข้าสู่นิวอิงแลนด์ จนเมืองที่อยู่ติดชายฝั่งเสียหายหนัก รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมัน เอสเอส เพนเดิลตัน ที่กำลังมุ่งหน้าไปบอสตันเช่นกัน
พายุมีความรุนแรงมาก จนกระทั่งตัวเรือได้รับความเสียหายจากคลื่นหักออกเป็นสองท่อน ทำให้ลูกเรือติดอยู่ในนั้น 33 ชีวิต ที่สำคัญคือพวกเขามีเวลา 3 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่เรือจะจม
โชคยังดีที่พวกเขาสามารถติดต่อสถานีหน่วยป้องกันชายฝั่งอเมริกาในชาธาม รัฐแมสซาซูเซทส์ ซึ่งนายสถานีในขณะนั้นอย่าง พันจ่าแดเนียล คลัฟฟ์ ได้ตัดสินใจส่งเรือกู้ชีพออกไป
กัปตันเบิร์นนี่ เว็บเบอร์ รับหน้าที่ควบคุมเรือรวมกับเจ้าหน้าที่หน่วยช่วยเหลืออีก 3 คน มุ่งหน้าออกสู่ทะเลกว้าง แม้จะรู้ว่าพวกเขาอาจจะเอาชีวิตไปเสี่ยงภัย และมีโอกาสรอดกลับมาเพียงน้อยนิดก็ตาม
เรือไม้ติดเครื่องยนต์ขนาดเพียงแค่ 10 เมตร ต้องเผชิญกับคลื่นสูงกว่า 21 เมตรเลยทีเดียว แต่พวกเขาก็สามารถค้นหาเรือจนเจอ และช่วยชีวิตลูกเรือ 32 คนมาได้
แต่…!! นี่เป็นเพียงเหตุการณ์แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะหนทางกลับที่ยังดูริบหรี่ คนทั้งสิ้น 36 ชีวิตต้องมุ่งหน้ากลับฝั่งในเรือขนาด 12 ที่นั่งเท่านั้นเอง
เหมียวขอหยุดการเล่าไว้เพียงเท่านี้ก่อน เพราะอยากจะให้ทุกคนได้เข้าไปชมในโรงภาพยนตร์ และเอาใจช่วยว่าพวกเขาจะรอดกลับไปได้สักแค่ไหน…
แต่เราลองมาดูบทสัมภาษณ์ของนักแสดงในเรื่องนี้กันต่อ จากตัวเอกของเรื่อง คริส ไพน์ ที่รับบทเป็นกัปตันเบิร์นนี่ เว็บเบอร์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวละครที่เขารับบทว่า
“เขาน่ารัก อ่อนโยน เขาโตขึ้นมาในครอบครัวของผู้ชายที่แข็งแกร่ง ที่ไปออกรบแล้วได้รับการติดยศ เบิร์นนี่เองอายุน้อยเกินกว่าจะออกรบได้ เขาก็เลยรู้สึกว่าเขาควรจะอยู่ที่นั่นด้วย
ผมชื่นชอบความเรียบง่ายของเรื่องราวนี้ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่มีงานที่ต้องทำ และบังเอิญว่าในวันนี้ งานของพวกเขาทำให้พวกเขาต้องออกไปเสี่ยงตาย
มันไม่ใช่เพื่อเกียรติยศ และมันก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบการทำเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเอง…มันเป็นเพียงแค่คนที่ทำงานของตัวเองเท่านั้นเองครับ ”
และนี่คือสิ่งที่ผู้กำกับ เคร็ก กิลเลสปี้ อยากจะฝากถึงทุกคนที่ได้อ่าน หรือกำลังคิดจะไปชม…
“ผมชอบเนื้อเรื่องแบบนั้นนะ มันมีความบริสุทธิ์ของคนรุ่นนี้ในเรื่องราวของเรา พวกเขามักจะให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าตัวเองและนั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความเป็นวีรบุรุษมากเหลือเกิน”
“ผมคิดว่ามันจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับผู้ชมที่ได้นั่งอยู่ในโลกใบนี้ และได้อยู่ในพื้นที่เดียวกับที่พวกเขาเคยอยู่ โดยเฉพาะในระบบสามมิติ
มันเป็นอะไรที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกใบนั้น และผมก็หวังว่าเราจะนำเสนอความยิ่งใหญ่ของมันและสิ่งที่พวกเขาได้เผชิญได้จริงๆ น่ะครับ”
ชมตัวอย่างแบบซับไทยได้ที่ด้านล่างเลยจ้า
หากยังไม่จุใจพอแอดเหมียวมีคลิปเบื้องหลังมาให้ชมด้วยอีก 2 คลิป
ใบปิดอย่างเป็นทางการจาก The Finest Hours เผยให้เห็นเรือแยกเป็น 2 ฝั่ง
ถึงแม้ในช่วงเดือนมกราคมของทุกๆ ปี มักจะเป็นช่วงที่โรงหนังค่อนข้างซบเซาพอสมควร เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวที่คนไม่ค่อยออกมาดูหนังกัน
แต่….!! หากคุณชื่นชอบความตื่นเต้นระทึกใจล่ะก็ แอดเหมียวขอแนะนำ The Finest Hours ชั่วโมงระทึกฝ่าวิกฤตทะเลเดือด
หนังมีกำหนดฉายวันที่ 28 มกราคมนี้ในระบบดิจิตอล 3 มิติ, ไอแมกซ์ 3 มิติ, และ 4 มิตินะจ๊ะ
ขอเน้นว่าควรจะรับชมแบบ 4 มิตินะ เพราะคุณจะสัมผัสได้ถึงแสงสีเสียง
การเคลื่อนไหวและละอองน้ำที่ปะทะกับหน้าของคุณประหนึ่งว่าลงไปกู้เรือด้วยตัวเองเลย
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
ที่มา WaltDisneyThailand
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.