ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เราคงได้เห็นกันว่าราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากราคาเกือบๆ 40 บาทจนตอนนี้เหลือเพียง 20 บาทต้นๆเท่านั้น
หลายคนอาจทราบว่านี่เป็นผลส่วนหนึ่งจากพิษเศรษฐกินโลกตกต่ำ และเชื่อว่าหากวันหนึ่งเศรษฐกิจกลับมาดีเช่นเดิม ราคาน้ำมันก็จะพุ่งสูงขึ้นไปอีกอย่างที่มันเคยเป็น
(ราคาน้ำมันในไทยช่วงต้นปี พ.ศ. 2557)
(ราคาน้ำมันในไทยช่วงต้นปี พ.ศ. 2559)
แต่สำหรับผู้ที่ในวงการค้าน้ำมันอย่าง Ian Taylor ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Vitol Group บริษัทรับขุดเจาะน้ำมันและค้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาบอกว่า เราอาจไม่ได้เห็นราคาน้ำมันพุ่งไปแตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลอีกต่อไปแล้ว
“มันคงยากที่เราจะได้เห็นราคาน้ำมันสูงขนาดนั้น คุณเชื่อเถอะว่ามันเป็นไปได้แน่ๆ ที่มันจะไม่กลับไปถึงจุดๆ นั้น อีกตลอดกาล” Ian กล่าว
จากภาพเราจะได้เห็นว่าราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งไปถึง 140 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงปี 2008 ก่อนจะร่วงลงมาเหลือเพียง 48 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงต้นปี 2009 จากนั้นมาน้ำมันก็ค่อยๆ มีราคาเพิ่มขึ้นจนถึงช่วงปลายปี 2014 น้ำมันดิบก็ปรับตัวลงมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันเหลือเพียง 34 เหรียญต่อบาร์เรลเท่านั้น
“ผมพอจะนึกภาพออกเลยว่าราคาของน้ำมันดิบจะอยู่ที่เท่าไหร่ คงจะอยู่ที่ราวๆ 40-60 เหรียญต่อบาร์เรล และจะอยู่ในราคานี้อีก 5-10 ปีเลยล่ะ”
การปรับตัวลงของราคาน้ำมันในครั้งนี้มีปัจจัยหลายสาเหตุ หนึ่งคือพิษเศรษฐกิจถดถอยในยุโรป และประเทศยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันน้อยลง
ในขณะเดียวกัน การมาถึงของ Shale Oil แหล่งน้ำมันดิบชนิดใหม่ ทำให้กลุ่ม OPEC ไม่สามารถควบคุมราคาน้ำมันโลกได้อีก ทำให้ราคาน้ำมันค่อยๆ ปรับตัวลง (ปัญหานี้ยาวมาก ถ้าใครอยากให้เล่าเดี๋ยวเล่าในข่าวหน้า)
แหม น้ำมันถูกแบบนี้ เหมียวเชื่อว่าทุกคนต้องยิ้มกันแก้มปริแน่นอน แต่เอ.. ทำไมข้าวของไม่เห็นลดราคาเลยนะ ตอนขึ้นนี่อ้างน้ำมัน ทำไมตอนน้ำมันลง ไม่เห็นลด อิอิ
ที่มา Business Insider
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.