สุนทรพจน์สุดสตรองของ Taylor ขณะขึ้นรับรางวัลอัลบั้มแห่งปี สื่อถึงสาวๆ จากทั่วทุกมุมโลก!!!

ก็ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ศิลปินสาวสวยมากความสามารถอย่าง Taylor Swift ก็ได้กลายมาเป็นไอดอลของเหล่าสาวๆ ทั่วโลกแล้วล่ะ ด้วยการวางตัวที่ดีของเธอ ความไม่ถือตัว และที่สำคัญที่สุดความสามารถของเธอล่ะ

และล่าสุดในการประกาศผลรางวัล Grammy นอกจากชุดและทรงผมของเธอที่เป็นที่จับตากันทั่วทั้งงาน แถมเธอยังถูกประกาศชื่อให้ไปรับรางวัล Album of the Year อีกต่างหาก นับเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ถึงสองสมัย!?

อัลบั้มแรกของเธอที่ได้รับรางวัลนี้คือ Fearless ในปี 2010 และปีนี้อัลบั้ม 1989 ของเธอได้รับรางวัล…

Album of the Year 2 ครั้ง

แต่สิ่งที่น่าจับตาที่สุดของเธอก็คือสุนทรพจน์ขณะที่เธอขึ้นไปกล่าวตอนได้รับรางวัล ที่ไม่ได้สื่อถึงเธอเท่านั้น แต่ยังสื่อไปถึงสาวๆ และคนหนุ่มที่กำลังไขว่คว้าและตามหาเส้นทางชีวิตและความสำเร็จจากทั่วโลก!!!

สุนทรพจน์ของเธอตอนขึ้นรับรางวัล

และสำหรับคนที่ไม่เข้าใจ #จ่าสิบเหมียว ก็ได้แปลไทยแบบคร่าวๆ สไตล์เหมียวๆ มาให้ได้อ่านกันแล้วจ้า…
‘ฉันอยากจะขอบคุณแฟนๆ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมานี้ รวมถึง Grammy ที่ได้มอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจนี้ให้ฉันอีกครั้ง‘ เธอกล่าว

‘…ในฐานะที่เป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัล Album of the Year ของ Grammy มา 2 สมัย ฉันก็อยากจะส่งผ่านข้อความนี้ไปให้สาวๆ จากทั่วโลกว่า…’

‘การเดินทางสู่ความสำเร็จของพวกคุณนั้น ไม่ว่าจะด้านไหน จะมีคนที่พยายามมาขัดความความสำเร็จของคุณอยู หรือแม้กระทั่งมาอ้างความดีความชอบในความสำเร็จหรือชื่อเสียงของคุณ แต่ถ้าคุณสามารถตั้งใจอย่างแน่วแน่ในสิ่งที่คุณทำ และไม่สนใจคนเหล่านี้ได้ล่ะก็ คุณจะประสบความสำเร็จ และคุณก็จะมองไปรอบๆ ตัวแล้วเห็นว่า ที่เรามาอยู่จุดนนี้ได้เป็นเพราะตัวของเราเอง และการสนับสนุนจากคนที่รักเราต่างหาก และนั่นคือความรู้สึกที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้แล้วล่ะ ขอบคุณทุกๆ คนและขอบคุณช่วงเวลาดีๆ แบบนี้’ เธอกล่าวปิด

ไม่รู้ว่าแอบแขวะแอบเหน็บแนวศิลปินชื่อขึ้นต้นด้วยตัว K รึเปล่าหน๊อออ อิอิ

และแน่นอนพอเธอกล่าวสุนทรพจน์สุดสตรองเสร็จทั่วทั้งห้องก็ต่างปรบมือด้วยเสียงอันดัง เหมือนว่าหลายๆ คนเข้าใจสิ่งที่เธอพยายามจะสื่อ และสิ่งที่เธอเจอมาล่ะ

เป็นสุนทรพจน์ที่ดีเลยนะเนี่ย ในมุมมองของ #จ่าสิบเหมียว ทรงพลัง สร้างพลัง และสั้นๆ ได้ใจความ ถึงว่าสาวๆ หลายๆ คนจากรอบโลกถึงได้ชอบเธอ วันนี้เราก็ได้รู้เหตุผลกันแล้วล่ะ

ที่มา: Aplus