จากที่หลายๆคนได้รับชมภาพยนต์เรื่อง “Star Wars Episode VII The Force Awakens” กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่ามีตัวละครใหม่ๆ เพิ่มเข้ามามากมาย
แต่ที่ขาดไปไม่ได้เลยคือตัวหลักอย่าง ฟินน์ และ เรย์ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่หลายๆคนเดาไว้ว่าต้องเป็นลูกของ ลุค สกายวอร์คเกอร์ อย่างแน่นอน…
แต่ช้าก่อน !! วันนี้ #เหมียวหง่าว มีอีกหนึ่งเบาะแสที่น่าสนใจบางอย่าง ว่าแท้จริงแล้ว เรย์ ก็คือ หลานสาวของ โอบีวัน เคนโนบิ นั่นเอง!! จริงหรือไม่อย่างไรเราไปดูกัน
1. เรย์ ใช้สำเนียงพูดแบบอังกฤษ
ตัวละครที่มีใช้สำเนียงพูดแบบอังกฤษในเรื่อง จะมีแค่โอบีวัน และเรย์ เท่านั้น ซึ่งตัวละครอื่นไม่มี ขนาด Liam Neeson และ John Boyega ที่เป็นนักแสดงชาวอังกฤษ ยังพูดสำเนียงอเมริกันเลย อ่ะ ยังไง ??
2. การสะกดจิต
ในภาคก่อนๆ เราจะเห็นโอบีวันใช้พลังสะกดจิตบ่อยมากกกกกก และพลังนี้เรียกได้เลยว่าเป็น ซิกเนเจอร์ของแกเลยก็ว่าได้ ซึ่งเรย์ก็สามารถใช้พลังสะกดจิตได้ จากฉากที่บังคับให้สตอร์มทรูปเปอร์ เปิดประตูและทิ้งปืนไว้ นั่นเอง
3. มีพฤติรรมที่คล้ายกัน
โอบีวันคอยเดินทางอย่างลับๆล่อๆ ในเดธสตาร์ ซึ่งเรย์ก็ทำแบบนี้เช่นเดียวเช่นกันในสตาร์คิลเลอร์เบส
4. ชุดของเรย์มีความคล้ายคลึงกับชุดของโอบีวัน (ในภาคก่อนๆ)
เสียงของชายแก่สองคน (Ewan McGregor และ Alec Guiness ซึ่งสองคนนี้รับบทเป็นโอบีวัน ในไตรภาคแรก และ ไตรภาคที่สอง) ที่โผล่มาตอนที่เรย์ได้รับ ไลท์เซบอร์ (ฉากที่เล่าย้อนไปในอดีต)
ถ้าหากเธอเป็นตระกูลสกายวอล์คเกอร์ ทำไมถึงไม่ได้ยินเสียงของ อนาคินล่ะ? ซึ่งเราจะเข้าใจช็อตหักมุมของโอบีวัน ในภาค 3 และ 4 มากยิ่งขึ้น ถ้า เรย์ สืบเชื้อสาย เคนโนบี
แล้วไงอีกล่ะ…
5. กล่องไม้
เรย์พบไลท์เซเบอร์ในกล่องไม้ แต่!! โอบีวันมีกล่องนี้มาตั้งแต่ 20-30 ปีที่แล้ว และเขาก็เป็นคนมอบไลท์เซเบอร์ให้กับลุคพร้อมกับกล่องไม้นี้เช่นกัน
6. ทฤษฎีการสลับกันระหว่างศิษย์กลายเป็นอาจารย์ และอาจารย์กลายเป็นศิษย์
ในภาค 3 นั้น โอบีวัน พยายามซ่อนลุคไว้ให้ห่างจาก ดาร์ธ เวเดอร์ แล้วถ้า ลุคจะทำแบบเดียวกันบ้างล่ะ คือพยายามให้เรย์อยู่ห่างจาก ไคโล เร็น ภายหลังจากได้ยินข่าวการกวาดล้างเหล่าเจได
และนี่ก็จะเป็นการสลับกันระหว่างศิษย์-อาจารย์ จากที่สกายวอร์คเกอร์เคยเป็นศิษย์ก็จะกลายมาเป็นอาจารย์สอน เคโนบี บ้างแล้วล่ะ !!
7. เรารู้เรื่องเกี่ยวกับโอบิวัน น้อยมากกกก
ในเนื้อเรื่องภาค 3 ทั้งโยดา และ โอบีวัน ต่างตระหนักแล้วว่าวิธีการฝึกเจไดนั้น มันล้าสมัยไปแล้ว.
อ้างอิงจากนิยาย ภาค 3 Revenge of Sith
โยดาตระหนัแล้วว่าพลังของเจไดนั้นอ่อนแอกว่าซิธเป็นอย่างมาก เพราะเหล่าซิธ ได้เปลี่ยนวิธีการฝึกและพัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัดจนทำให้มีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ กลับกัน เจไดยังคงย่ำอยู่ที่เดิม และยังคงมุ่งมั่นไปในทางของตน
ฉะนั้นแทนที่จะฝึกลุคและเลอาให้เป็นเจไดตั้งแต่เกิด ตามวิธีการฝึกเจไดแบบดั้งเดิม โยดากลับตัดสินใจที่จะเปลี่ยนมัน และเชื่อว่าทั้งสองควรได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่โดยไม่ต้องถูกฝึกให้เป็นเจได. นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้โอบีวันยังคงมีบทบาทอยู่ในระหว่าง ภาค 3 และ ภาค 4
8. อุปนิสัยของโอบีวัน เคโนบี และ ทฤษฎีในเรื่องของคำทำนาย “ผู้นำความสมดุลมาสู่พลัง”
และเป็นที่เข้าใจตรงกันว่าเรย์ ไม่ได้เป็นแค่ตัวละครหลักธรรมดาๆเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวละครที่จะนำ”ความสมดุลมาสู่พลัง อย่างแท้จริง” การเปิดเผยว่า เรย์ ไม่ใช่สกายวอร์คเกอร์ แต่เป็นเคโนบีนั้น จะทำให้เรื่องราวของสตาร์วอร์สทั้ง 9 ภาคนั้นเปลี่ยนไป น่าสนุกจังงง
อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าเหล่าสกายวอร์คเกอร์นั้นจะเป็นพวกที่มีพลังมาก แต่อารมณ์อ่อนไหวง่าย เจ้าอารมณ์ และ ยังถูกชักจูงเข้าด้านมืดได้บ่อยครั้ง แต่เบ็น เคนโนบี (โอบีวัน)
ในภาคก่อนๆ เราจะเห็นว่าเค้าเป็นคนที่ ยึดมั่นในศีลธรรม มีจิตใจที่สูงส่งและใสสะอาดอย่างแท้จริง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตัวเอกในเรื่องจึงควรที่จะสืบสายจากตระกู เคนโนบี มากกว่าที่จะเป็น สกายวอร์คเกอร์
ทั้งนี้เรื่องราวของมหากาพย์อาจจะจบลงที่ เรย์(ตระกูลเคนโนบี) กลายเป็นฮีโร่ที่แท้จริง หรือบางทีอาจจะจบแบบ ไคโล เร็น(ตระกูลสกายวอร์คเกอร์) ถูกทำให้ตาสว่างแล้วกลับกลายเป็นคนดีก็ได้ในไตรภาคนี้
และถ้าเรื่องราวทั้งหมดของสตาร์วอร์สทั้ง 3 ไตรภาคนี้ ทั้งหมดไม่ได้เป็นเรื่องราวของครอบครัวสกายวอร์คเกอร์ อย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน แต่เป็นเรื่องราวของ เคโนบี ซึ่งจะทำให้ทุกคนเงิบไปตามๆกัน
ถ้าหากว่าเรย์ สืบเชื้อสายมาจากตระกูล เคโนบี และหากเรื่องราวของมหากาพย์สตาร์วอร์สจบลงด้วยการที่เรย์กลายเป็นผู้ “นำความสมดุลมาสู่พลัง” ที่แท้จริง (ใน 2 ไตรภาคแรกเชื่อว่าคนที่นำสมดุลมาสู่พลังคือ อนาคิน สกายวอร์คเกอร์) แล้วล่ะก็….
เหมียวคิดว่าเรื่องราวของสตาร์วอร์สที่ผ่านมาทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
ที่มา : 9gag
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.