ดำเนินมาถึงภาคที่ 3 แล้ว สำหรับแฟรนไชส์แอนิเมชั่นทำเงินจากค่าย Dreamworks อย่าง Kung Fu Panda 3 ซึ่งภาคนี้เองจะมีการเปิดเผยความลับหลายๆ อย่างที่มีการปูมาตั้งแต่ภาคหนึ่ง ส่วนความสนุกจะเป็นไงนั้น ลองไปดูกันเลย
Kung Fu Panda 3 จะยังคงโฟกัสเรื่องราวไปที่ตัวละครอย่างโป ที่ภาคนี้ตัวเองไม่ใช่พวกขี้แพ้แบบภาคแรกอีกต่อไป แต่กลายเป็นปรมาจารย์ด้านกังฟู ที่เก่งกาจจนหาใครเทียบยาก (ซึ่งคนดูอาจจะไม่ต้องลุ้นแล้วล่ะว่ามันจะแพ้ศัตรูหรือเปล่า)
แต่วันหนึ่ง “ไค” อสูรร้ายที่อาศัยอยู่ในปรโลกก็ได้รวบรวมพลังจากปรมาจารย์กังฟูที่อยู่ที่นั้น เพื่อกลับมาอยู่บนโลกมนุษย์อีกครั้ง (จะว่าโลกมนุษย์ก็ไม่เชิง เพราะมีแต่สัตว์ทั้งนั้น) จึงเป็นหน้าที่ของโปที่ต้องปราบเจ้าไคลงให้ได้ เพราะมันอาจจะทำลายล้างสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้จนหมดก็เป็นได้
ไฮไลท์อย่างหนึ่งของภาคนี้ก็คือหมู่บ้านแพนด้าและลี (พ่อของโป) ที่มีการโปรโมทไว้ในตัวอย่างหลายๆ เวอร์ชั่น ซึ่งดูน่ารักมาก ลำพังแค่เราดูเจ้าโปตัวเดียวก็น่ารักแล้ว แต่นี่ขนกันมาทั้งหมู่บ้านแถมแต่ละตัวยังมีคาแรคเตอร์ที่ (ติงต๊อง) แตกต่างกันไป
แต่#เหมียวฟิ้น รู้สึกขัดใจนิดๆ เพราะหนังใส่เวลาตรงนี้เยอะไปหน่อย ทำให้ดูยืดเยื้อ เนื้อเรื่องไม่ค่อยเดินไปข้างหน้าเท่าไหร่ (แต่บางคนอาจจะชอบดูเพลินๆ) แทนที่จะใส่รายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครบางตัวลงไป (เช่นเม่ย เม่ย ที่เหมือนจะโผล่มาเป็นนางเอก แต่ก็ไม่ใช่)
ในเรื่องของฉากแอ็คชั่นนั้นก็คงต้องบอกเลยว่าทำได้ดีมากจริงๆ ไม่ได้น้อยกว่า 2 ภาคแรก แถมยังดูอลังการสวยงามยิ่งกว่าด้วย โดยเฉพาะฉากต่อสู้ตอนท้ายเรื่องระหว่างโปและไคที่ตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว
อีกหนึ่งไฮไลท์ของหนังภาคนี้คือ การเฉลยว่าแท้จริงแล้ว “นักรบมังกร” คืออะไร เพราะตั้งแต่ภาค 1 อาจารย์อูเกว ได้บอกว่าโปคือนักรบมังกร แต่ทั้งภาค 1 และ 2 ก็ยังไม่มีการบอกว่าตำแหน่งนี้มันคืออะไร หรือมีไว้ทำไม แต่คำตอบนั้นจะได้รับการเฉลยในภาคนี้นั่นเอง
แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินมาถึงภาค 3 แล้ว แต่ถ้าคุณไม่ได้ดู 2 แรกมาก่อน คุณก็ยังคงสนุกกับหนังเรื่องนี้ได้อยู่นะ ส่วนตัวเหมียวเอง คิดว่าถ้าจบถึงแค่ภาคนี้จะเป็นอะไรที่สมบูรณ์มาก (แต่ถ้าทีมงานจะเข็นออกมาอีกเราก็จะดูต่อไป)
สรุปแล้วหนังเรื่องนี้คือหนังแอนิเมชั่นที่เหมาะสำหรับเด็กๆ
ที่พ่อแม่ก็สามารถดูไปด้วยกันได้
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.