ชมความงามปรากฏการณ์ ‘Superbloom’ ดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนเบ่งบานในหุบเขามรณะ Death Valley!!

บนโลกนี้มีสถานที่อยู่มากมายที่รอคอยให้เราออกไปสำรวจ ซึ่งแต่ละที่ก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป ถึงแม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่แห้งแล้งแบบสุดๆ อย่าง Death Valley (หุบเขาแห่งความตาย) ก็ตาม

Death Valley เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันตกของอเมริกา โดยมีเนื้อที่ประมาณ 8.5 ล้านไร่เลยทีเดียว

พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะแห้งแล้ง เป็นทะเลทราย จึงทำให้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในอุทยานน้อยมาก ที่มาที่ไปของชื่อ Death Valley ต้องย้อนกลับไปในยุคปี 1849 เป็นยุคสมัยที่ตื่นทอง ผู้คนเดินทางมายังตะวันตกเพื่อขุดหาทองคำ

และเมื่อเดินทางมาถึงบริเวณนี้ทำให้การเดินทางยากลำบากมาก เพราะสภาพภูมิประเทศที่เลวร้ายแบบสุดๆ จึงส่งผลให้นักแสวงหาทองบางส่วนตายไป

คนที่เหลือก็ต้องเดินทางกว่าแรมเดือนจึงจะพ้นหุบเขาแห่งนี้ไป และคนสุดท้ายที่ผ่านไปได้ก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า ‘Good bye, Death Valley’ จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง

ที่จริงแล้วรู้ไหมว่า Death Valley นี่ก็มีแหล่งน้ำอยู่เหมือนกันนะ แแต่ว่ามันเค็มจนนำมาดื่มไม่ได้เท่านั้นเอง

ล่าสุดจู่ๆก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นที่หุบเขาแห่งความตายแห่งนี้ เรียกว่าปรากฏการณ์ Superbloom ที่มีดอกไม้จำนวนมากบานสะพรั่งไปทั่วพื้นที่ โดยส่วนมากนั้นเป็นดอกไม้ทะเลทราย Desert Gold ที่มีสีเหลืองอร่าม ออกดอกเต็มไปหมดจนดูคล้ายกับพรมสีเหลืองขนาดใหญ่

และนอกจากนี้ก็มีดอกไม้อื่นๆกว่าอีก 20 ชนิด ที่เข้ามาร่วมแจมด้วย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรอบ 10 ปี ครั้งก่อนเกิดขึ้นในปี 2005 เพราะต้องมีปัจจัยทางสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมจึงจะทำให้เหล่าดอกไม้เบ่งบานได้

เอาล่ะไปชมคลิปเพิ่มเติมกันได้เลย…

ขณะนี้นักท่องเที่ยวกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หากเพื่อนๆคนไหนได้มีโอกาสไปเที่ยวหรืออาศัยอยู่ใกล้ๆ รัฐแคลิฟอร์เนียก็ลองแวะไปชมกันได้นะจ๊ะ

โดยคาดว่าปรากฎการณ์ Superbloom นี้จะมียาวไปถึงช่วงเดือนเมษายนเลยทีเดียว ถ้าพลาดแล้วพลาดเลย ต้องรอไปอย่างน้อยอีก 10 ปีเลยนะ!!

หากเพื่อนสนใจติดตามข่าวสารเพิ่มเติมให้เข้าไปเช็คดูที่ เว็บไซต์ ของอุทยานแห่งชาติ Death Valley ได้เลยจ้า

ที่มา : viralnova, youtube