28 เรื่องจริงฮาๆ และเกร็ดความรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ The Lord of The Rings ที่แฟนๆ อาจไม่เคยทราบ!!?

หลังจากมีแฟนๆ เรียกร้องให้ทำเรื่องราวเล็กๆ น่ารักๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์ The Lord of The Rings #จ่าสิบเหมียว ก็เลยไปหาและรวบรวมข้อมูลมาแหละ อิอิ หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบกันนะจ๊ะ

หลักๆ แล้วทั้งในหนังสือและภาพยนตร์นั้นมีรายละเอียดเยอะมากกก วันนี้เราก็เลยจะนำมาเฉพาะบางส่วน เกี่ยวกับเรื่องราวน่ารักๆ และเบื้องหลังของเหล่านักแสดง รวมถึงเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจมาให้ดูกันแหละ ว่าแล้วเรามาดูกันเลยดีกว่า

 

ลูกๆ ของเหล่านักแสดงในเรื่องนี้ ถูกดึงเข้ามาร่วมแสดงด้วยจริงๆ ขนาดหลานของผู้แต่ง J.R.R. Tolkien ยังถูกรับเชิญมาแสดงในบทบาท Ranger ตัวประกอบเลย อย่างในฉากทั้งคู่ก็เป็นลูกของแต่ละคนจริงๆ

1

 

ผู้กำกับของเรื่องนี้ Peter Jackson และลูกๆ อยู่ในหนังหลายฉากเลยล่ะ!!!

2

 

อย่างในภาค 1 ที่หมู่บ้าน Bree ผู้กำกับของเราก็แสดงเป็นชายที่เดินผ่านหน้ากล้องและเคี้ยวแครอทจนกลายเป็นฉากในตำนานล่ะ

11234

นอกจากนี้ก็มีฉากของภาค 3 ที่เขาเป็นโจรสลัดบนภาพข้างบน นอกจากนี้เหล่าลูกๆ ของเขาก็ได้เข้าอีกหลายฉากเช่นกัน ให้สังเกตตอนที่กล้องซูมไปที่หน้าของเหล่านักแสดงโนเนมนั่นแหละ ฮ่าๆๆๆ

 

ที่จริงแล้ว Arwen กับ Aragon เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน!!?

111

เพราะ Aragon สืบเชื้อสายมาจาก Elros ที่เป็นพี่น้องกับ Elrond พ่อของ Arwen ซึ่งทั้งคู่เป็นเผ่าพันธุ์ฮาล์ฟเอลฟ์ หรือครึ่งเอลฟ์ครึ่งมนุษย์ แต่ Elros เลือกที่จะเป็นมนุษย์ ส่วน Elrond เลือกเป็นเอลฟ์ นั่นก็อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่เขาอนุญาตให้อรากอนมาอยู่ใน Rivendell ล่ะ

 

หลังจากถ่ายจบแล้ว คณะพันธมิตรแห่งแหวนทั้ง 9 ไปสักรอยสักร่วมกันเพื่อเป็นความทรงจำล่ะ

3

สำหรับคนที่จัดการเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Viggo Mortensen ที่รับบทบาท Aragon นั่นแหละ รอยสักเป็นภาษาของเอล์ฟ สัญลักษณ์ของเลข 9 ล่ะ

 

พ่อของ Thranduil เป็นคนที่ย้ายเอลฟ์ทั้งหมดออกจาก Dol Guldur ก่อนที่ภายหลังที่นั่นจะถูก Sauron ยึดครอง

222

หลักๆ แล้วเพราะมีข้อพิพาทระหว่างดินแดนกับ Lórien และ Moria ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเกิดในยุค Silmarillion หรือก่อน The Lord of The Rings หรือ The Hobbits เสียอีก ตอนนั้นเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอำนาจมาก และมักยกพวกตีกันเป็นประจำล่ะ

 

Sir Christopher Lee ผู้รับบทบาทซารูมานเป็นคนเดียวที่เคยได้เจอกับ J.R.R Tokien ผู้เขียน และเป็นแฟนตัวยงของหนังสือเรื่องนี้จนต้องหยิบขึ้นมาอ่านทุกๆ ปี

4

แถมเรื่องตลกก็คือ  J.R.R Tokien เคยบอกให้เขาว่าถ้ามีภาพยนตร์นี้ อยากให้เขาแสดงเป็น Gandalf ล่ะ ฮ่าๆๆๆ

 

ที่จริงเลโกลาสอาจไม่ได้มีผมยาวบลอนทองแบบนี้

333

เพราะ Tolkien ผู้แต่งไม่ได้บรรยายเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของเขาไว้แม้แต่น้อย เลยใช้รูปพรรณสัณฐานจากพ่อของเขานั่นก็คือ Thranduil เอาล่ะ

 

Sean Bean ผู้มีชื่อเสียงเรื่องการพาตัวละครของเขาไปตาย กลัวความสูงมาก จนไม่ยอมใช้เฮลิคอปเตอร์บินไปถ่ายฉากที่อยู่ไกลๆ แต่กระนั้นก็พยายามขึ้นไปจนได้…

5ระหว่างโดยสาร  Billy Boyd (Pippin) และ Dominic Monaghan (Merry) ได้ขอให้นักบินควงสว่านกลางอากาศ…คงพอนึกภาพออกนะ -*- (บุคลิกของพวกเขา (สองแสบ) กวนทรีนตรงตามบทบาทที่ได้รับจริงๆ ฮ่าาาา)

 

แหวนของเอลฟ์ทั้ง 3 วงที่เราเห็นตอนต้นของภาค 1 นั้นไม่ได้ถูกตีขึ้นโดย Sauron แต่เป็น Celebrimbor นายช่างชาวเอลฟ์

444

เขาแอบตีแหวนนี้ขึ้นเองหลังจากที่ช่วย Sauron ตีแหวนให้เผ่าพันธุ์มนุษย์และคนแคระเสร็จ และนั่นทำให้ลอร์ดของเผ่าพันธุ์เอลฟ์ของเขาไม่ถูกครอบงำ

 

และประตูนี้ก็เช่นกัน ที่เป็นผลงานของ Celebrimbor

555

 

แกนดาล์ฟหรือ Sir Ian McKellan มักจะขโมยเครื่องแต่งกายเป็นพ่อมดของกองถ่ายกลับบ้านตอนถ่ายเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นหมวก ชุด หรือแม้กระทั่งดาบ แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรเขาหรอก ฮ่าๆๆ

6

 

ที่จริงแล้วปีศาจ Balrog ตัวนี้มีปีก และสามารถบินได้ แต่สงสัยในหนังคงจะลืม…

666

หลักๆ แล้วมันอาจจะลืมที่จะใช้ก็ได้ -*- แถมตัวนี้ก็ไม่ใช่ตัวที่เก่งที่สุดอีกด้วย เพราะมีลอร์ดแห่ง Balrogs ที่ชื่อว่า Gothmog เป็นหัวหน้าของเจ้านี่อีกที ที่ควบคุมกองทัพออร์ค บาลร็อก และมังกรให้กับ Morgoth ที่เป็นหัวหน้าของ Sauron อีกที!!!

 

นักแสดงหลายคนเลย ที่เคยบาดเจ็บจริงๆ ระหว่างถ่ายทำ อย่างแกนดาล์ฟของเราก็ดันไปหัวโขกเข้าจริงๆ แต่ก็ยังถ่ายต่อไป ทำให้ได้ฉากที่เป็นธรรมชาติสุดๆ และทำให้ภาคต่อเขาก็ต้องไปโขกใหม่อีกที -*-

7

 

พ่อมดทั้ง 5 คนมาจากเผ่าพันธุ์ Maiar ที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นแกนดาล์ฟไม่ได้หน้าตาแบบนี้อยู่ตลอดนะจ๊ะ…

777

 

The Lord of The Rings มีฉากสัตว์ประหลาดเยอะมากก เหล่าทีมงานตัดต่อเสียงเลยจำเป็นต้องครีเอทีฟสุดๆ อย่างเสียงเจ้าปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ก็ต้องไปเอามาจากวอลรัสล่ะ

8

 

มีนักแสดงอยู่สองคนที่ไม่ต้องใส่ขาเทียม หูเอล์ฟ หรือจมูกโตๆ เหมือนคนแคระ นั่นก็คือ Viggo Mortensen (Aragorn) และ Sean Bean (Boromir) เพราะพวกเขามาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์นั่นเอง

9

 

สองดาราเอล์ฟ Cate Blanchett (Galadriel) และ Liv Tyler (Arwen) กับหูเอล์ฟของพวกเธอ

10

Cate Blanchett ชอบหูเอล์ฟของเธอมากจนหลังจากถ่ายทำเสร็จก็ขอกลับบ้านและนำไปเคลือบสีบรอนซ์ตั้งโชว์ ส่วน Liv Tyler ลืมไว้หน้ารถจนหูละลายติดกระจก -*-

 

Sauron ไม่ได้ชั่วและทรงพลังที่สุดใน Middle Earth หรอก…

888

เพราะเป็นลูกน้องของปีศาจที่ชื่อว่า Morgoth อีกทีนึง  หลักๆ แล้ว Morgoth นั้นเปรียบได้เป็นซาตาน และเซารอนก็เป็นสมุนตัวหนึ่งของซาตานแหละที่ส่งเซารอนมายึดครองโลก ส่วนอีกฝ่ายที่มีพลังพอๆ กัน ก็ส่งพ่อมดทั้ง 5 (หนึ่งในนั้นคือแกนดาล์ฟ) มาปกป้องและชี้นำชาวโลกล่ะ

 

ที่จริงแล้ว John Rhys-Davies ที่เล่นเป็นกิมลี เป็นคนที่สูงที่สุดในเหล่านักแสดง -*-

112

 

ภาพยนตร์ The Lord of the Rings ใช้เส้นผมของคนเยอะมาก จนการนำเข้าเส้นผมในนิวซีแลนด์ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ

1142

 

การถ่ายทำ The Lord of the Rings ทำเงินให้กับประเทศนิวซีแลนด์กว่า 200,000,000,000 เหรียญ จนต้องตั้งกระทรวง The Lord of the Rings ขึ้นมาภายในประเทศ เพื่อดูแลงานนี้

11425

 

เพื่อความสมจริง ทางสตูดิโอได้จ้างนักดาบระดับโลกอย่าง Anderson มาสอนเหล่าดาราฟันดาบ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่ต้องสอนเลย นั่นก็คือ Viggo Mortensen (Aragorn) เพราะเขามีฝีมือดีอย่างน่าประหลาด!!?

11

ผลงานของนักดาบผู้ฝึกสอนคนนี้ก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาแฟนๆ หลายเรื่อง ทั้ง Star Wars trilogy, The Princess Bride, The Mask of Zorro และยังมี พยัคฆ์ร้าย 007 ก่อนจะมาถึงเรื่อง Lord of the Rings และภายหลังยังมีไปต่อกับเรื่อง  Pirates of the Caribbean อีกแน่ะ!!!

 

นอกจากนี้ตัวเองของเรา Viggo Mortensen (Aragorn) ยังสามารถพูดภาษาเอลฟ์ได้จริงๆ อีกด้วย!!!

12

นักแสดงชาวเดนมาร์กคนนี้นอกจากจะเป็นจิตรกร นักกวี นักดนตรี แถมฟันดาบก็เก่งแล้ว เขายังพูดได้ถึง 5 ภาษา จากการที่เขามาแสดงเรื่องนี้ทำให้เขาต้องเรียนรู้ภาษาเอลฟ์ (และเขาทำได้จริงๆ !!?) นั่นทำให้เขาพูดได้ถึง 6 ภาษา แถมยังเป็นคนที่เรียนรู้ได้รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อในเกือบทุกๆ เรื่อง!!?

นอกจากนี้เขายังมีความละเอียดอ่อนมาก ดูแลคอสตูมที่ทางกองถ่ายให้ใช้เป็นอย่างดี บางครั้งก็เอามานั่งซ่อมเอง (ทั้งๆ ที่มีทีมงานทำให้) แถมยังสามารถรักสัตว์และเข้าใจพวกมันได้เป็นอย่างดี อย่างในเรื่องจะเห้นว่าเขาขี่ม้าบ่อยๆ ซึ่งหลังจากแสดงเสร็จเขาก็ซื้อม้าทั้งสองตัวนั้นมาเลี้ยงเอง…

 

แต่ถึงจะเก่งขนาดนี้ เขากลับถูกเรียกให้มารับบทในวินาทีสุดท้ายแบบหวุดหวิด

13

เพราะตอนแรก บทของ Aragon จะเป็นของ Stuart Townsend แต่กระนั้น ก่อนเริ่มถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไม่นาน ผู้กำกับเกิดเปลี่ยนใจตัดเขาออกจากบท เปิดทางให้ Viggo Mortensen ผู้ที่มาแคสแต่ไม่ได้บท (ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของ Lord of The Rings เวอร์ชั่นหนังสืออยู่แล้ว) ได้เข้ารับบทบาทแทน

…แต่กระนั้น สุดท้ายแล้ว Stuart Townsend ก็ได้ร่วมแสดงในเรื่องนี้อยู่นะ แต่เป็นออร์คในฉากล่ะ ฮ่าๆๆ

 

Shelob ไม่ใช่แมงมุมกระจอกๆ เหมือนในหนังนะจ๊ะ

999

Shelob เป็นลูกสาวของ Ungoliant ที่เป็นดวงวิญญาณแปลกๆ แต่ดันเลือกเป็นฝ่ายร้าย และเลือกร่างกายของแมงมุมเป็นรูปลักษณ์ภายนอกล่ะ หลังจากนั้นก็แพร่พันธุ์แมงมุมตัวใหญ่ๆ ไปทั่ว และทั้งหมดก็กลายมาเป็นลูกสมุนของเธออีกที

 

ขวัญใจของหลายๆ คน Andy Serkis ที่เล่นบทบาท Gollum ได้ไปแสดงในอีกเรื่องด้วยล่ะ ฮ่าๆๆ

1145

 

สุดท้าย The Lord of the rings 3 ภาคแรกประสบความสำเร็จสูงมากจนได้รับรางวัลมากมาย และสร้างชื่อให้กับผู้กำกับจนถึงทุกวันนี้…(ให้ลิสต์รางวัลคงจะยาวมาก เอาเป็นว่าเราเข้าใจตรงกันนะ ฮร่าา)

14

แต่กระนั้น The Tolkien estate บริษัทของลูกหลานผู้ประพันธ์กลับไม่เคยชอบหนังของ Jackson เลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าหนังของเขาเน้นแอคชั่นมากเกินไป ไม่เหมือนเวอร์ชั่นออริจินัลที่จะเน้นไปในการผจญภัยมากกว่า…

 

และนี่ก็คือเรื่องราวน่ารักๆ ลับๆ เบาๆ ทั้งหมดที่ #จ่าสิบเหมียว หามาฝากแฟนๆ หนังกันนะจ๊ะ ก็หวังว่าจะชอบกันล่ะ อิอิ ไว้คราวหน้าอยากอ่านเรื่องอะไรอีกก็รีเควสกันมาได้นะจ๊ะ ^^

ที่มา: Huffingpost, Screenrant, 9gag, thechieve

Comments

Leave a Reply