ในช่วงสัปดาห์นี้คงจะไม่มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่เบอร์ใหญ่เท่ากับ The Jungle Book ของ Disney อีกแล้ว ซึ่งในระหว่างที่คนอื่นๆ เขาไปเล่นน้ำกัน #เหมียวฟิ้นกลับเลือกที่จะไปดูหนังมากกว่า คราวนี้ไปดูแบบ 4DX ด้วย เดี๋ยวจะมารีวิวทั้งด้านเนื้อหาและระบบ 4DX พร้อมๆ กันเลยนะ
The Jungle Book เล่าเรื่องราวของเด็กกำพร้าคนหนึ่งชื่อ “เมาคลี” ที่ถูกเลี้ยงมาโดยเสือ “บากีร่า” และเข้าไปอยู่ในครอบครัวหมาป่าจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา
แต่แล้วเมาคลีก็ถูก “เชียร์คาน” เสือเจ้าถิ่นขู่เอาชีวิต เพราะไม่เชื่อว่าเมาคลีซึ่งเป็นลูกมนุษย์จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าสัตว์ป่าได้ และวันหนึ่งเมาคลีจะต้องกลับมาทำร้ายเหล่าสัตว์ป่าแน่นอน เมาคลีจึงถูกขับไล่ออกไปอยู่ที่อื่น และการผจญภัยสุดตื่นเต้นก็เริ่มต้นขึ้น
หนังมีงานด้านภาพและ CG ที่โดดเด่นมาก แม้ว่าทุกอย่างในเรื่องจะเป็น CG ทั้งหมด แต่เราก็ไม่รู้สึกขัดตาเลย เพราะทั้งกิ่งไม้ใบหญ้า ลำธาร และสัตว์ทุกตัว มันเนียนตาเป็นเนื้อเดียวกัน และทำให้คนดูเชื่อว่าสัตว์ที่อยู่ตรงหน้ามีตัวตนจริงๆ
เรื่องนี้ต้องขอชมน้องนีล เศรษฐี (Neel Sethi) เลย เพราะทั้งเรื่องมีแค่เขาแสดงอยู่คนเดียว เท่ากับว่าเขาเป็นคนแบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง ซึ่งการที่เด็กอายุ 10 กว่าขวบสามารถแสดงขนาดนี้ก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว แต่น้องนีลทำได้มากกว่านั้น เหมียวดูแล้วหลงรักการแสดงของน้องเลยล่ะ
และอย่างที่รู้กันว่า The Jungle Book เวอร์ชั่นนี้มีต้นแบบมาจากแอนิเมชั่นเมื่อ 50 ปีก่อน (และหนังสือของ Rudyard Kipling) ทำให้มันมีความดูง่าย แม้ว่าเรื่องราวจะดูจริงจังขึ้น ด้วยภาพและบทพูดที่ดูสมจริง แต่มันก็ยังคงเอกลักษณ์แบบการ์ตูน เด็กๆ ดูได้และผู้ใหญ่ก็สามารถน้ำตาร่วงได้ในเวลาเดียวกัน
ในส่วนของการดำเนินเรื่องเหมียวรู้สึกว่าไหลลื่นดีมาก อาจจะมีบทพูดช่วยกลางเรื่องที่ชวนหลับนิดหน่อย (หรือเหมียวอาจจะนอนไม่พอเอง) แต่ก็ไม่มีส่วนไหนของหนังเลยที่ไม่น่าประทับใจ ทุกตัวละครรวมไปถึงตัวร้ายอย่างเชียร์คานเองก็ดูมีเสน่ห์มาก
มาว่ากันในส่วนของ 4DX นี่ถือเป็นหนังเรื่องแรกเลย เพราะที่ผ่านๆ มาคิดว่าเหมียวชอบดูแบบ Imax มากกว่า เพราะมันเต็มตาดี มาเรื่องนี้พาเราเข้าไปในป่า มีแม่น้ำ มีฝน ใครจะไปดูต้องเตรียมเสื้อกันหนาวดีๆ หน่อยนะ เพราะลมค่อนข้างแรงบวกกับน้ำฝนอีก หนาวสั่นกันไปเลย
อีกส่วนที่ชอบคือในระบบ 4DX จะปล่อยกลิ่นหอมๆ ของป่า มีความคล้ายกับดอกตีนเป็ดอยู่หน่อยๆ แต่หอมกว่า นั่งดูไปแล้วรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในป่านั่นจริงๆ เลย
สุดท้ายนี้ขอย้ำว่าภาพสวยมากจริงๆ ดูแล้วอิ่มเอมและเหมาะกับการพาครอบครัวไปดูมาก
ถ้าตอนนี้ยังไม่มีโปรแกรมจะดูเรื่องอะไร อยากแนะนำเรื่องนี้เลยจ้า
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.