สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบภาพยนตร์สยองขวัญแล้วคงจะถูกใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมสถานที่หลอนๆ จากรอบโลก ที่ต้องบอกเลยว่าแค่เห็นภาพก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวแล้ว…
1. ป่าช้าของชาวยิว ในกรุง Prague ประเทศ Czech Republic
เคยมีงานศพมากมายถูกจัดขึ้นที่ป่าช้าแห่งนี้ในช่วงปี 1439 – 1787 มีชาวยิวถูกฝังอยู่ในที่แห่งนี้กว่า 100,000 ราย แต่มีป้ายหลุมศพอยู่ประมาณ 12,000 ป้ายเท่านั้น เพราะพื้นที่ที่จำกัดจึงทำให้ต้องฝังศพให้ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปทำให้มีต้นไม้ขึ้นแทรกตามหลุมศพแต่ละหลุม สร้างบรรยากาศหลอนให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
2. เกาะตุ๊กตา ในประเทศ Mexico
Julián Santana Barrera ชายผู้รักสันโดษได้ทำการเก็บตุ๊กตาเด็กที่ถูกทิ้งตามถังขยะมาไว้ที่เกาะทางตอนใต้ของเมือง Mexico City ตั้งแต่ในช่วงปี 1950 เพื่อให้ดวงวิญญาณของเหล่าเด็กหญิงที่จมน้ำตายในบริเวณนั้นได้มีที่สิงสู่ และสุดท้ายเขาเองก็ตายด้วยการจมน้ำที่เกาะนั้นเช่นกันในปี 2001แต่ทว่าตุ๊กตากว่า 1,000 ตัวยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
3. เกาะ Hashima ในประเทศญี่ปุ่น
บนเกาะ Hashima ในอดีตนั้นได้มีการตั้งรกรากเพื่อทำการขุดหาแร่กันขึ้น ซึ่งแร่ที่ว่านั้นถูกค้นพบในปี 1887 จึงทำให้มีผู้คนหลั่งใหลกันเข้ามาอาศัยอยู่กันมากมายจนกลายเป็นสถานที่ที่แออัดมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้โดยในปี 1959 มีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่กว่า 5,259 คน
แต่หลังจากนั้นไม่นานพอแร่เหล่านั้นหมดลงผู้คนก็ทำการย้ายถิ่นฐานกันออกไป เหลือเพียงตึกร้างไว้เท่านั้น จนกลายเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องผีมากที่สุดในโลกอีกที่หนึ่งเลยทีเดียวเชียว
4. โบสถ์กระดูก ในประเทศ Portugal
โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 โดย นักบวชจากคณะฟรันซิสกัน สภาพของโบสถ์มีขนาดไม่ใหญ่มากมีความยาวอยู่ที่ 18.6 เมตร และกว้าง 11 เมตร เท่านั้นเอง แต่บรรจุไปด้วย โครงกระดูกของนักบวชกว่า 5,000 คน และมีประโยคเขียนติดไว้บนหลังคาโบสถ์ด้วยว่า “สิ่งที่ดีกว่าวันเกิดก็คือวันตาย”
5. ป่าแห่งการฆ่าตัวตาย ในประเทศญี่ปุ่น
‘ป่าแห่งการฆ่าตัวตาย’ นี้ทีชื่ออย่างเป็นทางการว่าป่า Aokigahara ที่อยู่ในหมู่เกาะ Honshu เป็นสถานที่ที่มีคนเข้ามาผูกคอตายเป็นจำนวนมาก โดยเชื่อว่าเป็นผลพวงของเรื่องเล่าตามตำนานว่าป่าแห่งนี้มีภูติผีปีศาจอาศัยอยู่
ป่า Aokigahara แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก (โดยอันดับหนึ่งอยู่ที่สะพาน Golden Bridge ที่ซานฟรานซิสโก) ถึงกับขนาดที่ว่าทางการต้องติดป้ายเตือนตรงทางเข้าป่านี้ว่า ‘ชีวิตของคุณเป็นสิ่งมีค่าที่พ่อแม่มอบให้ ให้คิดถึงหน้าพ่อแม่ไว้ให้ดี ห้ามมาคนเดียว มีปัญหาโทร 22-01XX’
6. โรงพยาบาลประสาทที่ถูกทิ้งร้าง ในเมือง Parma ประเทศ Italy
สถานที่แห่งนี้เคยเป็นโรงพยาบาลประสาทมาก่อน ภายหลังถูกทำให้เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินชาวบราซิล ชื่อว่า Herbert Baglione เขาแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดจากการถูกทรมานของผู้ป่วยทางจิต ผ่านรูปภาพวิญญาณที่อยู่บนกำแพง
7. โบสถ์ของนักบุญ St. George ในประเทศ Czech Republic
เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Lukova ถูกทิ้งร้างไปเมื่อปี 1968 หลังจากส่วนของหลังคาได้ทรุดตัวลงมา ขณะที่กำลังจัดพิธีศพของชาวบ้านอยู่
ศิลปินนามว่า Jakub Hadrava ได้ทำการเปลี่ยนให้ที่นี่มีบรรยากาศสุดหลอนด้วยการสร้างงานปติมากรรมขึ้นภายในโบสถ์
8. สุสานในเมือง Paris ประเทศฝรั่งเศส
ลึกลงไปใต้ดินของเมือง Paris มีอุโมงค์ที่มีความคดเคี้ยวเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย ซึ่งมีความยาวโดยประมาณตั้งแต่ 187 – 300 กิโลเมตร
โดยสถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่เก็บศพมาตั้งแต่ช่วงหลังศตวรรษที่ 18 แล้ว มีผู้คนถูกฝังอยู่ที่นี่มากกว่า 6 ล้านคนเลยทีเดียว!!
9. เมือง Centralia ในรัฐ Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา
เพื่อนๆ ที่เป็นแฟนของเกม ‘Silent Hill’ คงจะรู้จักชื่อนี้เป็นอย่างดี เพราะที่นี่คือเมืองต้นแบบ ของเกมแนวสยองขวัญนี้ เมือง Centralia ในอดีตกว่า 50 ปีทีผ่านมา ก็เป็นเมืองธรรมดาๆ แบบปกติทั่วไปนี่แหละ มีผู้คนอาศัยอยู่มากมายกว่า 1,000 ครอบครัว ใกล้ๆ กับเมืองนี้มีเหมือนถ่านหินอยู่
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นที่เหมืองจนไฟลามเข้ามาถึงในเมืองทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก จนถึงปัจจุบันเหลือผู้คนอาศัยอยู่เมืองนี้ไม่ถึง 7 คน และที่แย่ไปกว่านั้นคือไฟ ที่ติดขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้วยังคงไหม้อยู่จนถึงปัจจุบัน (เนื่องจากบริเวณนั้นมีถ่านหินอยู่เป็นจำนวนมาก) และคาดว่าต้องใช้เวลาอีกกว่า 250 ปีกว่าไฟจะดับทั้งหมด
10. ตลาด Akodessewa ประเทศ Togo
เป็นตลาดที่ขายของจำพวกเครื่องรางและสมุนไพรต่างๆ นาๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในใจกลางของเมือง Lomé ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ Togo
ซึ่งผู้คนทางแถบนี้เขาจะนับถือลัทธิหมอผี Voodoo จึงทำให้เราจะได้เห็นอุปกรณ์ไสยศาสตร์ต่างๆ อย่างเช่นกระโหลกวัว-ควาย หัวลิง และหัวเสือดาว อยู่ตลาดแห่งนี้
11. เกาะภัยพิบัติ ในประเทศ Italy
เกาะ Poveglia เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงอีกแห่งเลยในทะเลสาบ Venetian อยู่ทางเหนือของประเทศ Italy ย้อนกลับไปยุคโรมัน…เหล่าผู้ป่วยเป็นโรคระบาดจะถูกเนรเทศให้มาอยู่ที่นี่ จนทำให้มีศพฝังอยู่บนเกาะนี้กว่า 160,000 คน
เรื่องราวด้านมืดของเกาะ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะภายหลังได้มีการตั้งโรงพยาบาลประสาทขึ้นมาที่เกาะนี้ ผู้ป่วยทางจิตมากมายถูกทรมานและตายลงไป ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดอีกที่หนึ่งบนโลกเลยก็ว่าได้
12. ทุ่งไม้กางเขน ในประเทศ Lithuania
ทุ่งไม้กางเขนนี้มีไม้กางเขนปักอยู่ร่วม 50,000 อันด้วยกัน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มันมีมากถึงขนาดนี้เป็นเพราะความเชื่อที่ว่า หากนำไม้กางเขนมาปักไว้ที่เนินเขาแห่งนี้จะทำให้ประสบพบเจอแต่ความดี แต่ก็ยังไม่มีทราบถึงว่าจุดประสงค์ของคนที่เอามาปักอันแรกนั้นคืออะไร อาจจะเป็นหลุมศพก็ได้ จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความลึกลับ
13. สะพาน Overtoun ในประเทศ Scotland
สะพานโค้งเก่าๆ แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน Milton ในประเทศ Scotland ในช่วงกลางๆ ของศตวรรษที่ 20 เรื่องแปลกประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นที่สะพานแห่งนี้
มีสุนัขจำนวนหลายตัวเดินขึ้นไปกระโดดลงมาจากสะพานที่สูงถึง 15 เมตร บางตัวก็ตายเพราะโขดหินที่อยู่ข้างล่าง ส่วนตัวที่ยังไม่ตายก็จะพยายามเดินขึ้นมากระโดดลงไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่นอนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จนถึงปัจจุบัน
14. ถ้ำ Actun Tunichil Muknal ในประเทศ Belize
ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมือง San Ignacio เป็นถ้ำที่มีความเกี่ยวข้องกับอารยธรรมของชนเผ่ามายา
ในส่วนหนึ่งของถ้ำพบกระโหลกของมนุษย์เป็นจำนวนมาก ผู้คนถูกนำมาบูชายันต์ที่นี่เพราะเชื่อว่าเป็นประตูสู่นรก
15. ปราสาท Leap Castle ในประเทศ Ireland
ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง County Offaly เชื่อว่าเป็นปราสาทที่ถูกต้องสาปมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ พื้นที่ใต้ของปราสาทแห่งนี้เต็มไปด้วยอุปกรณ์ในการทรมานทั้งหมุด ตะปู และเสาเข็ม ที่มีความแหลมคม
นอกจากนี้ยังพบโครงกระดูกมากมายที่นี่ ในช่วงที่ทำการบูรณะปราสาทแห่งนี้ คนงานได้ทำการขนโครงกระดูกออกไปด้วยรถบรรทุกถึง 4 คันด้วยกัน!! ชาวบ้านเล่าว่า สถานที่แห่งนี้มีดวงวิญญาณเป็นจำนวนมากที่ยังคงวนเวียนอยู่ในห้องใต้ปราสาทนี้
16. สุสาน Chauchilla ในประเทศ Peru
สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศ Peru นครผีแห่งนี้ถูกพบในช่วงทศวรรษที่ 1920 นักวิจัยค้นพบโครงกระดูกที่มีอายุกว่า 700 ปี สภาพของโครงกระดูกที่พบส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะท่านั่งแบบยองๆ และยิ่งไปกว่านั้นปรากฎรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของหัวกระโหลกทั้งหมดที่พบเจอ
17. เมืองแห่งความตาย ในประเทศ Russia
หมู่บ้านนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Dargavs ดูภายนอกก็เหมือนจะเป็นหมู่บ้านธรรมดาๆ ที่ประกอบไปด้วยบ้านหินเล็กๆ หลายหลัง
แต่จริงๆ แล้วที่เป็นสุสานขนาดใหญ่ ผู้คนถูกฝังไว้พร้อมกับของใช้ส่วนตัว ไว้ที่ใต้ถุนบ้านของตัวเอง
18. โรงพยาบาลทหารที่ถูกทิ้งร้าง ในประเทศ Germany
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่เคยถูกใช้ให้เป็นโรงพยาบาลของเหล่าทหารเยอรมัน Adolf Hitler ได้ทำการสร้างที่นี่ขึ้นมาในปี 1916
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านไป สถานที่แห่งนี้ก็ได้กลายเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของโซเวียตที่อยู่นอกเขตกลุ่มสหภาพโซเวียต โดยมีตึกมากกว่า 60 ตึกด้วยกัน ปัจจุบันมีหลายส่วนที่ถูกปิดตัวลงไป ทิ้งไว้ให้ร้าง บางส่วนก็รีโนเวทใหม่และยังใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้
19. รถไฟใต้ดิน Cininnati ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ในสหรัฐอเมริกา
สถานีรถไฟแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี 1884 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ไม่นาน ก็พบว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างต่อแล้วจึงได้หยุดลงไปในช่วงปี 1925 โดยสร้างไปได้แล้วครึ่งทาง ปัจจุบันมีการจัดทัวร์ไปในสถานีรถไฟร้างแห่งนี้ปีละ 2 ครั้งด้วยกัน (ใครสนใจก็ลองไปเที่ยวดูนะ ฮร่า)
20. โลงศพแขวนในเมือง Sagada ประเทศ Philippines
บนเกาะ Luzon ที่ประเทศ Philippinnes มีหมู่บ้านเล็กๆ ในเมือง Sagada ซึ่งกล่าวได้เลยว่าเป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในประเทศ Philippines เลยก็ว่าได้
เพราะที่นี่เค้ามีพิธีกรรมงานศพแปลกๆ สืบทอดมาแต่โบราณ คือการแขวนโลงศพที่บรรจุศพไว้ข้างในห้อยอยู่บนหน้าผา ด้วยความเชื่อที่ว่าวิญญาณของพวกเขาอยู่ใกล้กับสวรรค์ และช่วยให้เดินทางไปถึงสวรรค์ได้ง่ายขึ้น
บรึ๋ยยยย ขนลุกหง่ะ T T
ที่มา : Brightside
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.