การท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นเริ่มกลายเป็นสิ่งที่อันตรายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (แม้แต่กับคนไทยด้วยกันเอง) เพราะในช่วง 2-3 ปีมานี้ เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ที่มาประสบอุบัติเหตุ ถูกล่อลวงชิงทรัพย์ต่างๆ นานา
วันนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะมาพูดถึงภาพรวมนักท่องเที่ยวและอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ประเทศนี้ดูอันตรายสำหรับพวกเขา และอาจจะไม่กลับมาเหยียบที่ดินแดนสยามเมืองยิ้มอีกเลย?
เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเหยียบสนามบิน เรามักจะได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่ (หรือตุ๊กๆ) หน้าเลือดบางคนที่เก็บค่าโดยสารแบบแพงสุดกู่อยู่บ่อยๆ โดยหลายรายมักอ้างว่าเป็นการเหมารถ หรือมิเตอร์เสีย ทั้งที่จริงแล้วก็สามารถคิดราคาเป็นธรรมหรือตัวเลขตามจริงได้ และแม้ว่าชาวต่างชาติจะมีค่าเงินที่แพงกว่าไทยจริง แต่พวกเขาก็ต้องการการบริการที่เป็นธรรมเช่นกัน
หลายครั้งที่เหมียวฟิ้นได้มีโอกาสนั่งคุยกับนักท่องเที่ยวหลายคน พวกเขามักจะบ่นเกี่ยวกับวัฒนธรรมการขับรถของคนไทย เพราะในหลายๆ ประเทศมักจะให้สิทธิ์กับคนข้ามถนนก่อน หากคนขับรถเห็นคนยืนรอเพื่อข้ามถนนตรงทางม้าลายพวกเขาก็มักจะเบรกให้คนไปก่อนเสมอ
แต่ทางม้าลายในประเทศไทยดูเหมือนจะมีไว้เพื่อให้รู้ว่ามันคือทางม้าลายเท่านั้น เพราะคนขับรถส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะเบรกกันสักเท่าไหร่ จึงเกิดทางม้าลายแบบกดรอสัญญาไฟขึ้นมา นั่นก็พอจะช่วยให้รถหยุดได้บ้าง แต่ก็ยังฝ่าไฟแดงกันจนเกิดอันตรายกับผู้ข้ามถนนอยู่ดี
นอกจากอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้ว ผู้คนในท้องถิ่น (บางกลุ่ม) เองก็ดูจะไม่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ อย่างเช่นเมื่อปลายปี 2014 ที่เกิดข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก เกี่ยวกับคดีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 ราย Hannah Witheridge และ David Miller ที่เดินทางมาเที่ยวยังเกาะเต่า แล้วถูกฆาตกรรมอย่างเลือดเย็น
ต่อมาศาลชั้นต้นได้มีการตัดสินว่าชาวพม่า 2 คนเป็นผู้กระทำความผิด และได้มีคำสั่งตัดสินประหารชีวิตทั้ง 2 คน แต่กลับมีผู้คนจำนวนมาก รวมไปถึงญาติๆ ของผู้เสียชีวิตออกมาค้านคำตัดสิน เพราะคิดว่าทางตำรวจปิดบังความจริงอีกหลายอย่างเอาไว้ แถมคนบางกลุ่มยังคิดว่าการตัดสินประหารชาวพม่าทั้ง 2 รายเป็นเพียงการโบ้ยความผิดเพื่อปิดคดีเท่านั้น
ต่อมาในช่วงต้นปี 2016 กลับเกิดเหตุ Luke Miller นักท่องเที่ยวชาวอักฤษวัย 26 ปีเสียชีวิตที่เกาะเต่าเป็นครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรกประมาณ 15 เดือนเท่านั้น แต่คราวนี้ตำรวจในท้องถิ่นบอกว่าเป็นเพียงการจมน้ำเท่านั้น ไม่ใช่การฆาตกรรมแบบครั้งก่อน
ทางด้านนาง Laura Witheridge พี่สาวของ Hannah Witheridge ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่าประเทศไทยไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดกัน “อย่างที่หลายคนเห็นกัน มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเสียชีวิตอีกรายที่เกาะเต่า ฉันคิดว่าจะไม่โพสต์อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้จนกระทั่งได้เห็นเพื่อนแชร์เรื่องราวเตือนคนอื่นๆ ไม่ให้ไปที่นั่น”
“แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องการเตือนไม่ให้ผู้คนไปที่นั่นหรอกนะที่ทำให้ฉันอยากมาโพสต์ แต่เพราะมีความเห็นที่บอกว่าประเทศไทยเป็นที่ที่สวยงามต่างหาก คือถ้าหมายถึงโปสการ์ดก็คงใช่อยู่ เหมือนกับการที่คุณดูเสือและสิงโตเลย มันสวย แต่มันอันตรายเมื่อคุณเข้าใกล้ มันจะฉีกคุณเป็นชิ้นๆ”
เรื่องความอันตรายของประเทศไทยนั้นโด่งดังจนถึงขั้นมีนักเขียนชาวออสเตรเลีย John Stapleton ออกมาเขียนหนังสือที่ชื่อว่า Thailand ‘one of the most dangerous tourist destinations on Earth’ (ประเทศไทยหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่อันตรายที่สุดในโลก)
โดยในหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงความเจริญรุ่งเรื่องในการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่กลับสร้างความเกลียดชังและการดูถูกนักท่องเที่ยวเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื้อฉาวที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของการท่องเที่ยวสมัยใหม่และการฆาตกรรมนักท่องเที่ยวด้วย
หลังจากที่มีข่าวการเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ออกไป ชาวเน็ตในต่างประเทศหลายๆ คนก็ให้ความสนใจกับประเด็นนี้มาก อย่างเช่นผู้ใช้นามแฝงว่า Charles1234 กล่าวว่า “บอกตามตรงประเทศนี้ไม่ได้อยู่ในลิสต์ประเทศที่ฉันอยากไปเลย และฟังดุเหมือนมันไม่ใช่ประเทศที่ครบครัวควรพากันไปพักผ่อนด้วย”
และ frenchbull กล่าวว่า “เรารู้กันทั้งนั้นแหละว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่ประเทศไทย มันเต็มไปด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งนั้นแหละ”
และกรณีล่าสุดเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เกิดเหตุวัยรุ่นไทยยกพวกรุมกระทืบนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่พากันมาเล่นน้ำสงกรานต์ในอำเภอหัวหิน เพียงเพราะว่านักท่องเที่ยวเดินไปชนเข้ากับวัยรุ่นที่อยู่ในอาการมึนเมาเท่านั้น? ซึ่งเหตุการณ์แนวนี้ไม่ได้เกิดเพียงครั้งเดียว แต่เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
เหตุการณ์เหล่านี้อาจจะกลายเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในสังคมไทยจนบางคนชินชาไปแล้ว แต่หากยังเป็นแบบนี้อยู่ต่อไป ชื่อเสียงและการท่องเที่ยวของประเทศไทยอาจจะค่อยๆ เสื่อมลงและไม่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาที่ประเทศของเราได้อีกเลย
และปิดท้ายข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยว พบว่าในปี 2015 ยอดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปลดลงเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่คนเอเชียโดยเฉพาะ จีน ฮ่องกง และไต้หวัน สูงขึ้นอย่างมากมาแทนที่….
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
ที่มา dailymail , tourism , Laura Witheridge
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.