เป็นเวลากว่าเกือบ 80 ปีแล้วที่โลกไม่ได้พบกับสงครามขนาดใหญ่นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงไปเมื่อปี 1945 แต่รู้หรือไม่ โลกเราเคยตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะมีสงครามโลกครั้งที่ 3 มาหลายต่อหลายครั้ง แต่โชคดีที่มี “ฮีโร่” มาช่วยเอาไว้
อย่างเช่นเรื่องราวของนายทหารหนุ่มชาวรัสเซีย Vasili Alexandrovich Arkhipov คนนี้ ที่โลกต้องขอบคุณเขาจริงๆ ไม่อย่างนั้น เราอาจต้องผจญกับสงครามโลกอีกครั้งแล้วก็เป็นได้
เรื่องราวเกิดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 1962 ในตอนนั้นถือว่าเป็นช่วงที่วิกฤติและล่อแหลมที่สุดของสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกาและโซเวียต เมื่อเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐลำนึงถูกยิงตกในประเทศคิวบา และอีกเครื่องสูญหายไปในน่านฟ้าโซเวียต ทั้งสองประเทศใกล้จะเปิดสงครามกันเต็มที
(เครื่องบินสอดแนม U2 ที่หายไปในน่านฟ้าโซเวียต)
ในวันนั้นเอง เรือดำน้ำ B-59 ที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ของฝ่ายโซเวียตที่มีกัปตัน Valentin Savitsky เป็นผู้บัญชาการถูกเรือพิฆาตของสหรัฐ USS Beale เข้าโจมตี เป้าหมายการโจมตีนั้นไม่ได้ต้องการทำลายล้างให้สิ้นซาก แต่เพียงต้องการให้เรือดำน้ำดังกล่าวโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำเท่านั้น
(เรือดำน้ำ B-59 ของโซเวียต)
ฝ่าย B-59 ไม่ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย พวกเขาอยู่ในสภาวะตึงเครียดไม่รู้จะทำอย่างไรดี หากพวกเขายิงหัวรบตอบโต้กลับไป สงครามโลกครั้งที่ 3 จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และโลกก็จะตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง
ในขณะที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร กองเรือพิฆาตของสหรัฐอเมริกาอีกหลายลำ ก็เริ่มเข้ามาล้อมกรอบเรือ B-59 ลำดังกล่าว ทันใดนั้นเองกัปตัน Savitsky ตัดสินใจสั่งให้ลูกเรือเตรียมหัวรบนิวเคลียร์ดังกล่าว
(เรือพิฆาต USS Beale ของสหรัฐอเมริกา)
ตามระเบียบการแล้ว การจะยิงหัวรบนิวเคลียร์ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทหาร 3 นายบนห้องควบคุม เป็นช่วงเวลาอันตรึงเครียด โชคดีที่นายทหาร Vasili Alexandrovich Arkhipov คัดค้านการยิงหัวรบอย่างเต็มที่และบอกให้กัปตันนำเรือขึ้นเหนือผิวน้ำเพื่อเป็นการยอมจำนน
สุดท้าย…. สงครามโลกครั้งที่ 3 จึงไม่ได้เกิดขึ้น
ต่อมาภายหลังนายทหาร Vasili Alexandrovich Arkhipov ก็ได้รับคำชื่นชมอย่างสูงจากทุกฝ่าย ในฐานะวีระบุรุษผู้หยุดสงครามโลกนั่นเอง!!
เขาจากไปอย่างสงบในปี 1998 ด้วยวัย 72 ปีในประเทศรัสเซียบ้านเกิดของเขา แต่แม้ร่างกายจะสูญสลาย แต่การตัดสินใจคัดค้านครั้งนั้น ก็ตราตรึงอยู่ในประวัติศาสตร์ตลอดไป…
โลกต้องขอบคุณเขาจริงๆ ไม่อย่างนั้นเราอาจไม่ได้มานั่งสบายๆ แบบนี้แล้วก็เป็นได้ #เหมียวอ๊อดโด้ ขอนับถือจากใจครับผม!!
ที่มา The Guardian
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.