สัตว์ป่านั้นมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงอย่างสิ้นเชิง พวกมันสามารถเอาชีวิตรอดได้อยู่ในป่าด้วยตัวของพวกมันเอง แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งวันใด ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็จะทำให้โอกาสมีชีวิตรอดที่น้อยลงไป
อย่างเจ้าแรคคูนน้อย Loki ที่ Kat Wagg กับสามีของเธอพบมันเข้าในสภาพที่ย่ำแย่มากๆ ทั้งมีอาการขาดน้ำ ติดเชื้อ และมีบาดแผลที่สาหัส พวกเขาไม่อาจปล่อยให้มันอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปได้ เพราะมันไม่รอดแน่ๆ
จนกระทั่งเวลาผ่านไป ช่วยเยียวยารักษาทั้งร่างกายและจิตใจให้กลับมาเป็นปกติ คอยเลี้ยงดูและเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา โดยหวังว่าซักวันหนึ่งมันพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตในป่าแบบที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
จนเมื่อเจ้า Loki โตพอที่จะใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองแล้ว พวกเขาก็ปล่อยให้มันมีอิสระในการเลือกทางเดินชีวิตของมันเอง อยากจะไปก็ไปตอนไหนก็ได้ แต่ผลสุดท้ายคือมันเลือกที่จะอยู่ตรงนี้
มันไม่มีทีท่าทีจะหนีหรือตีตัวออกห่างจากครอบครัวที่เลี้ยงดูเลย ‘ส่วนใหญ่แล้วสัตว์ป่ามักจะทำตามสัญชาตญาณของมันเอง เมื่อมันโตขึ้นก็จะออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวของมันเอง แต่สำหรับ Loki แล้วกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าเราจะพยายามชักจูงให้มันกลับไปในป่าแค่ไหนก็ตาม’
.
เจ้า Loki มีความสุขมากในระหว่างที่ใช้ชีวิตในแบบสัตว์เลี้ยงจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตมัน ได้อยู่ร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น อันเนื่องมาจากภาวะแทรกซ้อนจากวัคซีน
.
ถึงแม้ว่าชีวิตของ Loki จะเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น ถ้าหากว่าวันนั้นมันไม่ได้รับการช่วยชีวิตเอาไว้ มันก็คงไม่ได้สัมผัสถึงความรักและความอบอุ่นแบบนี้
Kat Wagg เน้นย้ำอยู่เสมอว่าแรคคูนนั้นไม่ควรนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง แต่สำหรับเจ้า Loki นั้นได้รับการช่วยเหลือและได้รับการยกเว้น เพราะว่าถึงแม้จะปล่อยให้มันกลับไปได้อย่างอิสระ แต่มันก็เลือกที่จะอยู่ต่อไปจนถึงวาระสุดท้าย….
ที่มา : thedodo
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.