เหล่าแมวเหมียวทั้งหลายบนโลกนี้มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีอยู่เฉพาะในแต่ละสถานที่ และรูปร่างหน้าตาหรือลักษณะทางกายภาพก็จะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่มันอยู่อาศัยด้วย
ซึ่งปัจจุบันก็มีอยู่หลายสายพันธุ์ที่เข้าข่ายใกล้จะสูญพันธุ์ และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเจ้าเหมียวทะเลทรายสายพันธุ์หนึ่ง ที่ใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว
เจ้าเหมียวทะเลทรายนี้มีชื่อสายพันธุ์ว่า Sand Cat หรือ “แมวทราย” เป็นเหมียวที่เกิดมาเพื่ออยู่ในทะเลทรายอย่างแท้จริง
เพราะมันมีลักษณะเด่นคือ มีลำตัวค่อนข้างเล็ก ขนสีน้ำตาลซีดจนถึงเท่าอ่อน สามารถพรางตัวไปกับทรายเพื่อการล่าและการถูกล่าได้ แถมยังมีใบหูขนาดใหญ่เป็นทรงสามเหลี่ยมปลายเรียว ทำให้มันได้ยินเสียงค่อนข้างดี สามารถจับแรงสั่นสะเทือนบนพื้นทรายได้ดีกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ
เหมียวชนิดนี้จะมีขนคลุมอยู่บริเวณอุ้งเท้าด้วย เพื่อช่วยป้องกันความร้อนจากพื้นทราย และช่วยเก็บเสียงเวลาเดินได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และเมื่อเดินบนผิวทรายหยาบจะไม่ปรากฎร่องรอยใดๆ เลย เหมาะสำหรับการหาเหยื่อในที่ที่แห้งแล้งแบบสุดๆ ในทะเลทราย
อาหารของมันก็จะเป็นพวก นก หนู กระต่าย สัตว์เลื้อยคลาย และแมลงต่างๆ โดยจะหากินในช่วงเวลากลางคืนส่วนกลางวันมักใช้เวลาส่วนใหญ่นอนอยู่ในโพรงตื้นๆ ที่มันขุดขึ้นมาเองตามเนินทราย ในดงไม้แคระหรืออาจนอนอยู่แถวๆ ปากโพรง
เจ้าแมวทรายนี้เป็นเหมียวที่มีความสามารถในการปีนป่ายและกระโดดได้ไม่เก่งเท่าไหร่ แต่เป็นยอดนักขุด เพราะทักษะการขุดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีพในทะเลทรายของเจ้าเหมียวชนิดนี้ เพราะต้องมีสถานที่ที่ปลอดภัยไว้นอนหลับพักผ่อนและคอยสอดส่องหาเหยื่อ
พวกมันมีสถานที่อยู่อาศัยตามแถบทะเลทรายในแอฟริกาและเอเชีย สามารถพบมากในแถบทะเลทรายซาฮาร่า ทะเลทรายอราเบียน และทะเลทรายแถบอิหร่านและปากีสถาน
ดูเหมือนว่ามันสามารถพบได้ทั่วไปเลยใช่มั้ยล่ะ? แต่จริงๆ แล้วเจ้าเหมียวชนิดนี้ถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่มีแนวโน้มใกล้จะสูญพันธุ์เพราะสถานที่อยู่อาศัยของมันถูกทำลายไปอย่างมากด้วยน้ำมือของมนุษย์
แต่ล่าสุดก็มีข่าวดีเหมือนกัน เพราะเจ้าเหมียวทะเลทรายที่ชื่อว่า Rotem ในสวนสัตว์ซาฟารีในประเทศอิสราเอล เพิ่งคลอดลูกออกมา ถึง 3 ตัวด้วยกัน นับว่าเป็นข่าวดีมากๆ เลยสำหรับสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดนี้
.
.
.
เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะเพื่อนๆ กับเรื่องราวของเหล่าแมวทราย ถึงแม้ว่าจะเป็นนักล่าแต่มันก็ดูน่ารักมุ้งมิ้งไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะ?
แต่น่าเสียดายที่มันใกล้จะสูญพันธุ์ทำให้เราไม่สามารถเห็นมันได้ตามธรรมชาติ เพราะต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่ในสวนสัตว์และตามศูนย์อนุรักษ์ต่างๆ อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ทำให้พวกมันใกล้จะสูญพันธุ์นี้ก็เป็นเพราะน้ำมือของมนุษย์นี่ล่ะ
เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่เราควรจะหันมาใส่ใจกับธรรมชาติให้มากขึ้น เพราะการกระทำของเราสามารถส่งผลไปถึงเพื่อนร่วมโลกตัวอื่นๆ ได้โดยที่บางครั้งเราไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.