พูดถึงสตูดิโอที่ผลิตหนังแอนิเมชั่นชื่อดัง ชื่อของ Pixar ต้องโผล่ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน ด้วยผลงานกว่า 16 เรื่อง และทำเงินรวมไปกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก แม้จะมีช่วงที่ฟอร์มตกลงไปบ้าง แต่ถ้าจะบอกว่านี่คือหนึ่งในสตูดิโอที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ก็คงจะไม่เกินเลยไปนัก
วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 16 อันดับแอนิเมชั่น “ยอดแย่” ถึง “ยอดเยี่ยม” ของพิกซาร์จากเว็บไซต์ BusinessInsider เรื่องไหนจะอยู่อันดับที่เท่าไหร่ เราไปดูกันเลยดีกว่า!!
16. Cars 2 (2011)
เรื่องราวภาคต่อของเหล่ายานพาหนะพูดได้ ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังไม่กี่เรื่องของพิกซาร์ที่ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างเอกฉันท์ว่าห่วยที่สุด และเป็นหนังเรื่องแรกของพิกซาร์ที่ได้คะแนน “มะเขือเน่า (Rotten)” จากเว็บไซต์ Rottentomatoes อีกด้วย
15. A Bug’s Life (1998)
หนังแอนิเมชั่นเรื่องที่สองของพิกซาร์ เล่าถึงมดที่ชื่อว่า Flik ที่พยายามหาทางช่วยเหลืออาณานิคมมดให้รอดพ้นจากแก๊งตั๊กแตนใจร้าย
แม้หนังเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จบนตารางหนังทำเงิน ก่อนหน้านั้นมีหนังแอนิเมชั่นจากดรีมเวิร์คเรื่อง “Antz” เข้าฉายก่อน ทำให้หลายๆ คนจำสลับกันอยู่บ่อยๆ
14. The Good Dinosaur (2015)
เรื่องราวของโลกสมมุติ จะเป็นอย่างไรหากอุกกาบาตไม่ได้ตกใส่โลกเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว โดยหนังเล่าเรื่องการผจญภัยหาทางกลับบ้านของสองเพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์ “อาร์โล” และ “สป็อต”
แอนิเมชั่นเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวที่ค่อนข้างซีเรียสผิดกับแอนิเมชั่นพิกซ่าเรื่องอื่นๆ แถมยังฉายปีเดียวกับ “Inside Out” อีกต่างหาก ทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก
13. Brave (2012)
แอนิเมชั่นแนวเจ้าหญิงเรื่องเดียวของพิกซาร์ เล่าถึงหญิงสาวที่พยายามแหกขนบธรรมเนียมและค่านิยมของผู้หญิงยุคโบราณ โชคร้ายที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก
12. Cars (2006)
หนังเรื่องสุดท้ายที่พิกซาร์ทำด้วยตนเอง ก่อนจะถูกซื้อไปโดยดิสนี่ย์ ถือว่าเป็นแอนิเมชั่นที่เหมาะกับเด็กและครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะมีเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างสดใส
อย่างไรก็ตามหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางด้านรายได้และคำวิจารณ์เท่าไหร่นัก
11. Monsters University (2013)
หนังภาคต่อแต่เล่าเรื่องก่อนหน้าที่จะเกิดขึ้นใน “Monsters, Inc.” เรื่องราวของเหล่าปิศาจสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะจบการศึกษาออกมาหลอกหลอนผู้คน ถือว่าดูได้สนุกๆ แถมมีตอนจบที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมอีกด้วย
10. Toy Story 2 (1999)
ภาคต่อของหนังแอนิเมชั่นระดับคลาสสิกของพิกซาร์ เมื่อวู๊ดดี้หุ่นคาวบอยตัวเอกจากภาคแรก กำลังจะถูกขายออกจากบ้าน เหล่าของเล่นจึงต้องหาทางช่วยวู๊ดดี้กลับมาให้ได้
โดยหนังยังมีจุดเด่นที่การดำเนินเรื่องที่สนุกสนานตื่นเต้น รวมถึงฉากดราม่าเรียกน้ำตาที่ใครดูแล้วก็ต้องประทับใจแน่นอน
9. Monsters, Inc. (2001)
ถือว่าเป็นแอนิเมชั่นไอเดียแปลกอีกเรื่องที่ยกระดับผลงานของพิกซาร์ ให้ขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการเลยทีเดียว และเป็นผลงานแรกของผู้กำกับ Pete Doctor ผู้สร้าง Up และ Inside Out อีกด้วย
หนังเล่าเรื่องเหล่าปิศาจที่มีหน้าที่ทำให้เหล่าเด็กๆ กลัวให้ได้ แต่วันหนึ่งพวกเขากลับเจอกับเด็กที่ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เรื่องราวอันสนุกสนานและน่าประทับใจก็เกิดขึ้น
8. Toy Story 3 (2010)
ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ได้รับคำวิจารณ์ดีมากของพิกซาร์ แถมได้รางวัลออสการ์ในปีนั้นอีกด้วย หนังเล่าถึงแก๊งของเล่นจากสองภาคแรก บังเอิญถูกส่งไปยังสถานดูแลเด็ก และที่นั้นเองพวกเขาต้องพบกับของเล่นตัวอื่นๆ พร้อมทั้งเรื่องราวอันน่าสยดสยอง!!
7. The Incredibles (2004)
เรื่องราวของครอบครัวอดีตซุเปอร์ฮีโร่ที่พยามจะใช้ชีวิตอย่างปกติในสังคมหลังปลดเกษียณ อย่างไรก็ตามพวกเขากลับพบว่ามีวายร้ายกำลังวางแผนยึดครองโลกอยู่ ทำให้พวกเขาต้องออกปฏิบัติการอีกครั้ง
แม้เบื้องหน้าจะเป็นแอนิเมชั่นซุปเปอร์ฮีโร่ธรรมดา แต่เนื้อเรื่องกลับมีความลุ่มลึกและนำเสนอความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวได้อย่างยอดเยี่ยม
6. Up (2009)
ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังพิกซา์ไม่กี่เรื่องที่นำเสนอประเด็นค่อนข้าง “ผู้ใหญ่” โดยเฉพาะเรื่อง “ความรัก” และ “การปล่อยวาง” โดยมีฉากหลังเป็นการผจญภัยของคู่หู่เด็ก-คนแก่ จนสุดท้ายหนังเรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์เลยทีเดียว
5. Inside Out (2015)
แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ปีล่าสุดซึ่งกลายเป็นหนังที่ใครๆ ก็หลงรัก เล่าถึง “อารมณ์” ภายในสมองของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในชีวิต และเธอต้องเรียนรู้ที่จะเติบโตจากเหตุการณ์นี้
4. Toy Story (1995)
แอนิเมชั่นเรื่องแรกของพิกซาร์และเป็นเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับสตูดิโอน้องใหม่แห่งนี้ เล่าเรื่องราวของ วู๊ดดี้ ตุ๊กตาคาวบอยที่เป็นที่โปรดปรานของเด็กชายมาหลายปี แต่วันหนึ่งบัลลังก์ของเขากำลังจะสั่นสะเทือนด้วยการมาถึงของตุ๊กตาอัศวินอวกาศ บัซ ไลท์เยียร์
หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นการเปิดมิติใหม่แห่งการ์ตูนสามมิติ และเป็นการตอกหน้าดิสนี่ย์ให้เห็นว่า หนังแอนิเมชั่นสองมิตินั้นเป็นของที่ตกยุคไปแล้ว!!
3. Finding Nemo (2003)
เรื่องราวการผจญภัยสุดฮาและน่าประทับใจ กับการตามหาลูกชายของคู่หูปลาการ์ตูนกับปลาขี้ลืม กลายเป็นหนึ่งในหนังแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก ใครไม่เคยดูก็ไปหามาดูซะเถอะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
2. Ratatouille (2007)
นี่คือหนังแอนิเมชั่นที่ได้รับการยกย่องว่ามีฉากอารมณ์ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก เรื่องราวของ Remy หนูที่ใฝ่ฝันจะเป็นเชฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่นั่นไม่ง่ายเลย เพราะเขาคือสิ่งมีชีวิตที่ร้านอาหารไม่อยากให้เข้าใกล้มากที่สุด
1. WALL-E (2008)
มาถึงอันดับหนึ่งของเรา จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก WALL-E หุ่นยนต์เก็บขยะที่แอบหลงรักหุ่นยนต์สาวสวย แม้หน้าหนังจะดูเป็นเด็ก แต่หนังกลับแฝงประเด็นการรักษาธรรมชาติ และปัญหาของเทคโนโลยีเอาไว้อย่างแยบยล รวมถึงการเล่าเรื่องได้อย่างสนุกสนาน แม้แทบจะไม่มีบทพูดแม้แต่น้อย
ไม่ว่าท่านจะเป็นคอหนังหรือไม่ ก็จงหามาดูซักครั้งเถอะฮะ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน!!
เป็นไงล่ะเพื่อนๆ เห็นด้วยกับการจัดอันดับหรือเปล่า ส่วน #เหมียวอ๊อดโด้ ค่อนข้างเห็นด้วยเลย แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดอย่างไร ลองเสนอกันเข้ามานะฮะ
ที่มา Business Insider
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.